svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง

ว่าด้วยคดีดังสนั่นสังคมไทย กับกรณี ขนมจีบมรณะ งานนี้ส่อคดีพลิก หลังตรวจสอบพบว่าบ้านที่ทำขนมจีบ เป็นชาวมุสลิม ทำแต่ขนมจีบไก่ แต่คนที่กินนั้น กินขนมจีบหมู ทางด้าน สธ.ฉะเชิงเทรา เผยรื่องนี้อาจจะมีความเข้าใจกันคลาดเคลื่อน

รายงานข่าวล่าสุดในวันนี้ (12 พฤษภาคม 2563) ทางผู้สื่อข่าวภูมิภาคได้รายงานว่า หลังจากทีมเข้าตรวจสอบที่บ้านของนางสุวรรณี อายุ 55 ปี ใน ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตขนมจีบขายทั้งปลีกและส่งต่อ จนมีแม่ค้ามารับซื้อไปเร่ขาย ก่อนจะปรากฏเป็นข่าวดัง ว่ามีผู้บริโภคซึ่งเป็นหญิงวัย 66 ปี ในพื้นที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับประทานขนมจีบเข้าไปแล้วเกิดอาการท้องเสียและได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ปรากฏว่า ในวันนี้ที่บ้านของนางสุวรรณี ได้มีการปิดประตูหน้าบ้านอย่างเงียบสนิท แต่ภายในยังคงมีคนอยู่อาศัย หลังจากที่มีสื่อมวลชนจำนวนมาก ต่างวนเวียนเข้ามาทำข่าวถ่ายภาพ และขอสัมภาษณ์ อีกทั้ง ยังมีการโทรศัพท์เข้ามารบกวนอยู่ตลอดเวลา จนถึงขั้นต้องปิดโทรศัพท์ และบอกว่าให้รอผลการตรวจพิสูจน์จากทาง สสจ.ฉะเชิงเทรา เท่านั้น

ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง


ขณะที่ ทางด้าน นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่ทำขนมจีบขายในพื้นที่ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ นั้น เป็นชาวมุสลิม ที่ทำขนมจีบจากเนื้อไก่ มาเป็นเวลานาน 7 ปีแล้ว แต่ขนมจีบตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเป็น ขนมจีบไส้หมู จึงเชื่อว่าน่าจะมีความเข้าใจกันผิด หรืออาจจะเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน
ซึ่งทั้งนี้ ทาง สสจ. ได้ไปทำการเก็บตัวอย่างวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งน้ำจิ้มที่อาจเป็นสาเหตุร่วม ที่จะทำให้เกิดท้องร่วงและได้กำกับให้ผู้ที่ทำขนม ทำการสาธิตวิธีการทำให้ดูด้วย ทั้งยังทราบข้อมูลว่า ผู้ที่ทำขนมขายรายนี้ ไม่ได้ทำขนมขายในวันที่ 7 และ 8 เนื่องจากมีอาการป่วย ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่า รถเร่ที่เข้าขายนั้น เป็นรถคันเดียวกันกับที่ตกเป็นข่าวหรือไม่ โดยอาจจะเป็นคันอื่น จึงทำให้แหล่งที่มาอาจจะแตกต่างกันไป

ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง


อีกทั้งยังต้องตรวจสอบ วันเวลาให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับกรณีนี้ เนื่องจากมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่ระดับหนึ่ง ส่วนในแง่ปัจจัยของการซื้อ-ขาย ทั้งคนขายเองก็ยังไม่มั่นใจมากนัก เนื่องจากมีของไปขายไม่มาก เพียงแค่ 4 ชนิด โดยผู้ซื้ออาจจะซื้อมาจากรถคันอื่นก็มีความเป็นไปได้ หากมีของขายหลายอย่างมากกว่าคนขายรายนี้ จึงต้องตรวจสอบตามหาสาเหตุที่แท้จริงกันต่อไปและหากพบว่าเป็นการซื้อจากรถเร่คันนี้จริง ๆ แล้วนั้น ยังต้องไปดูอีกว่า เขาได้ไปรับขนมจีบมาจากเจ้าอื่นอีกหรือไม่ นอกจากผู้ที่ทำขนมจีบขายรายนี้ อาจจะเป็นขนมจีบไส้หมูอีกก็เป็นได้ แต่หากรับจากรายนี้รายเพียงเดียว ก็อาจจะไม่ใช่เนื่องจากเป็นชาวมุสลิมไม่ได้ทำขนมจีบไส้หมูขาย จากข้อมูลที่ทราบมา ยังพบว่ามีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากถึง 19 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย นพ.กสิวัฒน์ กล่าว
สำหรับกรณีนี้ นับว่าเป็นข่าวที่ชวนให้ประชาชนตื่นตกใจกันไปทั้งประเทศทีเดียว เมื่ออาหารที่หาทานได้ง่ายๆ อย่าง "ขนมจีบ" เมนูที่หาซื้อได้ง่าย แถมมีเร่ขายถึงหน้าบ้าน แต่ในวันนี้กลับกลายเป็นต้นตอสำคัญ ถึงขนาดที่จะทำให้คนกินเข้าไปเสียชีวิตได้ และตรวจสอบพบว่าอาการท้องเสียอย่างหนักกว่า 20 คน จนเกิดข้อสงสัยว่าสาเหตุของ ขนมจีบมรณะ มาจากอะไรกันแน่

ย้อนเวลาตามติดทุกประเด็นในกระแสข่าว "ขนมจีบมรณะ"กันอีกครั้ง
- ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่ถือว่าเป็นวันเกิดเหตุ มีแม่ค้ารายหนึ่งขับรถเร่ขายขนมจีบ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ตามหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผ่านมาประมาณ 1-2 วัน มีชาวบ้านเกือบ 20 คน ล้มป่วยจากอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ที่น่าเศร้าคือ นางธนู อายุ 66 ปี หนึ่งในผู้กินขนมจีบ เสียชีวิตจากอาหารเป็นพิษ
- ผู้ป่วยหลายคนยืนยันว่า ตอนกินขนมจีบไม่ได้มีกลิ่นบูด รสชาติก็อร่อยดี แต่บางคนกินแค่น้ำจิ้มก็ยังท้องเสียหนัก ดังนั้น ต้นตอความปั่นป่วนในครั้งนี้ถูกพุ่งเป้าไปที่ น้ำจิ้มขนมจีบ และผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด หนีไม่พ้นแม่ค้าที่นำมาขาย จนนำมาซึ่งการประกาศตามหาตัวหญิงรายนี้กันทั่วโลกโซเชียล

- ชั่วข้ามคืน (11 พฤษภาคม 2563 ) น.ส.มิ้นต์ แม่ค้าขนมจีบ วัย 29 ปี เข้าพบตำรวจ พร้อมชี้แจงว่า เธอไม่ได้ทำขนมจีบขายเอง แต่ไปซื้อมาจากร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ร้านจะแพ็กมาพร้อมน้ำจิ้ม เธอตกใจมากกับข่าวมีคนกินแล้วตาย เพราะซื้อมาขายกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ยืนยันว่าไม่เคยสัมผัสอาหาร ทางร้านก็กังวลและสงสัยว่าเหตุสลดนี้เกิดขึ้นจากอะไร จากนั้นทางแม่ค้าขายขนมจีบ วัย 29 ปี เผยหลังตนเองเข้าพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดว่า ตนไปรับขนมจีบจากร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะไปตระเวนขายตามสถานที่ต่างๆ โดยวันเกิดเหตุ ตนไปรับขนมจีบมาขายตั้งแต่เวลา 06.30 น. จำนวน 15 กล่อง ซึ่งมีการแพ็กมาอย่างดี และขายหมดตั้งแต่ก่อนเที่ยง ซึ่งที่ผ่านมา ก็ขายหมด และไม่เคยมีตกค้างมาก่อน


ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง



ย้อนตามประเด็นนี้กันอีกครั้ง
แม่ค้าขายขนมจีบ ยังบอกต่อว่า ตอนนี้ รู้สึกเครียดมาก และตกใจที่มีคนเสียชีวิต อยากขอโทษไปถึงครอบครัวว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นให้กระจ่าง เพราะก็ไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคม.
- นางสุวรรณี อายุ 55 ปี คนทำขนมจีบที่ขายให้ น.ส.มิ้นต์ เผยว่า ทำขนมจีบไก่มาเกือบ 10 ปี ตอนทำล้างมืออย่างดี สวมถุงมือทำทุกครั้ง ไม่ใส่สารกันบูด น้ำจิ้มก็ทำหม้อเล็ก ๆ เก็บไว้ไม่เกิน 2 วัน และชิมก่อนขายทุกครั้ง ส่วนกรณี น.ส.มิ้นต์ ส่งขายให้ราว 1-2 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม น.ส.มิ้นต์ มารับขนมจีบจากที่บ้านไป ก่อนที่ตนจะหยุดขายไปหลังจากนั้นเพราะไม่สบาย ยืนยันว่าไม่เครียด และยินดีให้ตรวจสอบ
- ล่าสุด (12 พฤษภาคม) น.ส.อรุณี ลูกสาวผู้เสียชีวิต ได้เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่หาผู้รับผิดชอบ โดยยังติดใจเรื่องคำพูดของ น.ส.มิ้นต์ เพราะที่บ้านซื้อมากินในวันพฤหัสบดี (7 พฤษภาคม) แต่วันนั้นร้านที่ทำขนมจีบบอกว่าปิด จึงอยากทราบว่า น.ส.มิ้นต์ นำขนมจีบจากที่ไหนมาขาย วอนให้พูดความจริง และยังคาใจเรื่องที่พ่อและพี่ชายของ น.ส.มิ้นต์ มีการปักธูปคว่ำลงกระถางในงานศพของแม่ ว่าทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร
- ทางด้านสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการสอบถามไปทาง น.ส.มิ้นต์ บอกว่า ขนมจีบที่ขายเป็นขนมจีบไก่ แต่ขนมจีบที่มีปัญหานั้นเป็น"ขนมจีบหมู" ทำให้ทางสาธารณสุข ต้องตรวจสอบถึงที่มาของขนมจีบอีกครั้ง

สำหรับประเด็นนี้ สังคมคงต้องให้ความสนใจและเฝ้าตามติดทุกความเคลื่อนไหว สำหรับอะไรคือสาเหตุคงต้องติดตามกันอีกครั้งว่า สาเหตุที่แท้จริงของ การเสียชีวิตนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ !!

ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง


.

ขนมจีบมรณะ พบบ้านเป้าหมายเป็นมุสลิม ไม่ทำขนมจีบหมู อาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตตัวจริง