หลังศาลมีคำพิพากษา ในคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุก nbt ปี2551 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร/นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก /นายภูวดล ทรงประเสริฐ /นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันเป็นจำเลย ที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกมั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ ซ่องโจร ฯ
จากกรณีนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2551 จำเลยกับพวก ร่วมกันประชุมวางแผน ระดมคนจำนวนมากมีอาวุธปืนและมีด จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วทำลายทุบประตูทางเข้าบุกรุกเข้าสำนักงานวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT)และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถ.วิภาวดีฯ ทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้าตู้ระบบควบคุมไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดฯ จนเสียหายใช้การไม่ได้ รวมค่าเสียหาย 612,198 บาท
โดยให้จำคุกนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2ปี และจำคุก นางสาวอัญชลี นายภูวดล ทรงประเสริฐ /นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ คนละ 1ปี โดยไม่รอลงอาญา ในฐานความผิด ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณสำนักงานสถานีNBT โดยใช้กำลังปทุษร้ายฯ
ซึ่งศาลพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนักรบศรีวิชัย 85 คน บุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ว่ามีการเข้าไปในสถานีดังกล่าวจริง และมีพยานบุคคล พยานหลักฐาน ยืนยันว่าเห็นจำเลยทั้ง 5 คนกระทำความผิด ในวันที่บุก NBT รวมถึงได้ยินเสียงของจำเลยที่2
ประกอบกับการนำสืบของตำรวจที่สืบสวนมาตั้งแต่การชักชวนปราศัยบนเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องกัน และพยานไม่ได้ปรักปรำโจทย์เพราะไม่มีความเกลียดชังหรือมีส่วนได้เสีย ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลากลางวันจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
และศาลให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง5คนฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร เพราะในข้อหานี้พยานหลักฐานของโจทย์ไม่ปรากฎว่ามีการหารือประชุมวางแผนกันมาก่อน จึงยังไม่มี
ขณะนี้ทั้ง5คน อยู่ระหว่างการยื่นขอประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป