โรคหอบหืดกับการดูแลตนเอง

โรคหอบหืด หรือ โรคหืด (Asthma) เป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อย และพบได้ทุกเพศทุกวัย โรคหอบหืด คือ โรคที่หลอดลม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางเดินหายใจหดตัว มีการตีบแคบ เนื่องจากหลอดลมมีการอักเสบเรื้อรัง จึงทำให้หลอดลมมีความไวต่อสารกระตุ้นต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ทำให้หายใจไม่สะดวก

โรคหอบหืดอันตรายแค่ไหน?
โรคหอบหืดอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิต รบกวนการนอนหลับพักผ่อนประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสียงานเสียการเล่นกีฬา ออกกำลังกายไม่ได้ ร่างกายอ่อนแอโรคหอบหืดในเด็ก อาจส่งผลต่อพัฒนาการ ขาดเรียนบ่อย เรียนรู้ช้า เรียนไม่ทันเพื่อนเมื่ออาการกำเริบจนไม่สามารถหายใจเข้าออกได้ อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีสาเหตุของโรคหอบหืด?
พันธุกรรม คนในครอบครัว พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง มีประวัติเป็นโรคหืดหรือโรคภูมิแพ้อื่น ๆสารก่อภูมิแพ้ ได้รับการกระตุ้น เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น การติดเชื้อไวรัสบางชนิดสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ เช่น อากาศเย็น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ มลภาวะในอากาศการออกกำลังกาย บางคนอาจมีอาการหอบหืดที่เกิดจากการออกกำลังกาย ออกกำลังกายหนักเกินไป หรือออกกำลังกายในที่อากาศแห้งความเครียด ส่งผลต่อการหายใจที่ผิดปกติ อาจทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจแห้ง หายใจลำบาก

โดยทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิหมอชาวบ้าน ได้โพสต์ข้อความวิธีดูแลตนเองไว้ว่า...การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยหอบหืด มีดังนี้
1. อย่ากิน สูดดมหายใจ หรือสัมผัสสิ่งที่รู้หรือสงสัยว่าทำให้แพ้ พยายามหลีกเลี่ยงตลอดเวลา
2. พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อย่าตรากตรำงานหรือออกกำลังกายเกินควร
3. อย่าปล่อยอารมณ์ให้หงุดหงิด ฉุนเฉียว กังวลหรือเสียใจเกินไป (ไม่ตึงไม่หย่อน)
4. ห้ามกินยาจำพวกฮอร์โมน เช่น สเตียรอยด์ หรือเพร็ดนิโซโลน เพราะอาจเกิดโรคแทรกที่ร้ายแรงภายหลังได้
5. ห้ามใช้ยาสูดพ่นขยายหลอด ลมเกินจำนวนครั้งที่แพทย์กำหนด ถ้าสูดหลายๆครั้งไม่ได้ผล จะต้องรีบไปตรวจเพิ่มเติม
6. อย่าหลงเชื่อจากผู้ที่แอบอ้างว่ามียารักษาโรคหืดให้หายขาดได้ เพราะยาบางชนิดอาจทำใอาการหอบหืดหายชั่วคราว แต่มีโทษร้ายแรงภายหลัง
7. อย่าปล่อยให้เป็นไข้หวัดหรือหลอดลมอักเสบโดยไม่รักษา ซึ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น
8. อย่าปล่อยให้ท้องผูกเป็นประจำ นั่นคือกินผักและผลไม้เพิ่มเติมมากกว่าปกติ
9. งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่
10. ออกกำลังกายสม่ำเสมอตามความเหมาะสมเพื่อสร้างเสริมภูมิต้านทานโรค
ข้อมูลจากGedGoodLife