สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดเสวนาเรื่อง "พะยูนมาเรียม" "ทะเลไทย" ต้อง "ไร้ขยะ" โดย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การผ่าท้องมาเรียมแล้วพบพลาสติก 8 ชิ้น ถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิต ก็ต้องหาวิธีแก้ไขเพื่อไม่ให้ มาเรียม ตายเปล่า ทั้งนี้ ขยะที่เกิดขึ้นในไทยมีมากถึง 28 ล้านตันต่อปี ในจำนวนนี้มีขยะพลาสติกถึง 2 ล้านตัน และ 80% ขยะบนฝั่ง ก็ออกสู่ท้องทะเล ซึ่งบางชิ้นก็ไม่ย่อยสลาย และเป็นไมโครพลาสติกด้วย ทางกระทรวงฯ ก็พยายามหาวิธีให้ลดการใช้พลาสติกซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน สิ่งไหนไม่จำเป็นไม่ควรใช้ ถ้าใช้ก็ต้องทิ้งให้ถูกที่ และเมื่อรวบรวมขยะพลาสติกได้(สัมฯ เพิ่ม) ดร.วิจารย์ ยังบอกด้วยว่า ทางกระทรวงทรัพย์ฯ มีโรดแมปของการจัดการพลาสติค โดยตนเป็นประธานอนุกรรมการ ดำเนินการ ทำงานร่วมกับ สภาอุตสาหกรรม และสมาคมพลาสติก / ปัจจุบัน มีขยะพลาสติก 2 ล้านตันต่อปี แต่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 5 แสนตัน อีก 1.5 แสนตัน ก็ต้องสร้างระบบเพื่อมาตอบโจทย์ว่าจะหมุนเวียนกลับเข้าไปอย่างไร ตอนนี้เราปฏิเสธพลาสติก 100% ไม่ได้ แต่จะเอาระบบมาใช้ให้เกิดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับพลาสติกที่ไม่จำเป็นโดยเฉพาะการใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือแบบบางๆ ก็จะไม่ผลิตแล้ว จะผลิตถุงที่หนาขึ้นเพื่อใช้ได้หลายครั้ง และสุดท้ายเวลาใช้เสร็จ หรือหมดแายุการใข้งาน จะเอาพลาสติกไปจัดการอย่างมีระบบ โดยดูว่าโรงไฟฟ้าสามารถใช้ได้หรือไม่ เพราะพลาสติคถือว่าเป็นองค์ประกอบที่มีเชื้อเพลิง สามารถเอากลับมาเป็นวัตถุดิบได้ ก็ประหยัดไปได้ นอกจากนี้ในอนาคต จะมีการกำหนดมาตรฐานของพลาสติกที่มีอยู่ทั้งในดิน น้ำ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ระหว่างการทำวิจัย-ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ขยะในบ้านเรามีถึง 100 ล้านตัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดย 20% (20-70 ล้านตัน) เป็นพลาสติก ขยะที่ลงสู่ทะเลแล้วใช้เวลาเป็นหลัก 100 ปีกว่าจะย่อยสลาย นี่จึงเป็นปัญหาของทะเลที่สำคัญ ทาง วช. จึงท้าทายนักวิจัยว่า ทำให้ประเทศไทยไม่มีขยะในทะเลได้หรือไม่ ซึ่ง ดร.สัญญา สิริวิทยาปกรณ์ ก็รับคำท้า แล้วตั้งโครงการ "ประเทศไทย ไร้ขยะ" ขึ้นมา โดยมีการระดมนักวิจัยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์เทค โนโลยีสิ่งแวดล้อม และนักวิชาการด้านต่างๆ มาร่วมทำงานกัน
ซึ่งก็หวังว่าจะเกิดผลดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ทาง วช. ได้ชูประเด็นการลดปัญหาการตกค้างของขยะพลาสติกในทะเล ผ่านการวิจัยและพัฒนา 5 ข้อหลักคือ ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกต้องผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ง่ายต่อการจัดการขยะและนำกลับมาใช้ใหม่ / ชุมชนในพื้นที่ทุกจังหวัดที่ติดทะเลต้องรู้จักวิธีจัดการขยะพลาสติกได้ด้วยตัวเองและเบ็ดเสร็จในพื้นที่ / ต้องมีกระบวนการเก็บและจัดการขยะในทะเลอย่างเป็นระบบทุกพื้นที่ / นำขยะพลาสติกมารีไซเคิล โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ / ลดการตกค้างของไมโครพลาสติกในทะเลและสิ่งมีชีวิต บนฐานการวิจัยที่สามารถเทียบมาตรฐานกับนานาชาติได้-รองศาสตราจารย์ ดร.สัญญา สิริวิทยาปกรณ์ ผู้บริหารจัดการโครงการวิจัย ทะเลไทยไร้ขยะ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า การรับคำท้านี้ได้รับความร่วมมือจากนักวิจัยหลายมหาวิทยาลัย ที่เสนอแนวคิดเข้ามา แต่มันจะเกิดผลได้ก็ต้องเอางานวิจัยไปใช้จริง ซึ่งภาครัฐและภาคประชาสังคมจะต้องจริงใจและมีส่วนร่วมด้วย และทีมวิจัยก็ต้องศึกษาหลายๆเรื่อง ทั้ง การผลิตพลาสติกตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ / การลดขยะจากแผ่นดินสู่ทะเล / การเติมสารบางอย่างในไปในพลาสติก / กระบวนการคัดแยก โดยไม่ใช้คน / การเก็บขยะจากทะเล จะใช้นวัตกรรมทางสังคมที่มีอยู่และกิจกรรมในพื้นที่เพื่อสร้างเครือข่ายชุมชน ทั้งนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้ แสดงความคิดเห็นได้ และสามารถย่อยข้อมูลมาเป็นอินโฟกราฟิค ก็อยากขอให้ช่วยแชร์กันในข้อมูลที่มีประโยชน์