
คลิกชม>>>>(คลิปข่าว) ย้อนคดี"เปรี้ยว สวยสังหาร" ฆ่าหั่นศพโลกตะลึง
คดีเริ่มจาก ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 24 ปี กับ วาริสรา กลิ่นจุ้ย แอ๋ม ทำงานอยู่ที่เดียวกัน มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันหลายครั้ง
ส่วนชนวนเหตุ น่าจะมาจากแค้นที่ แอ๋ม ให้ข้อมูลให้ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ไปจับแฟนของ เปรี้ยว ซึ่งเป็นคนลักลอบค้ายาเสพติด จนถูกดำเนินคดี
จากนั้น เปรี้ยว กับพวก ประกอบด้วย วศิน หรือ นิว นามพรม อายุ 22 ปี กวิตา หรือ เอิร์น ราชดา อายุ 25 ปี และ อภิวันท์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี นัดวางแผนกันที่ร้านลาบลอฟต์ พร้อมกับให้ เอิร์น เป็นคนโทรศัพท์แจ้งให้ผู้ตายมาพบ อ้างว่ามีลูกค้าสนใจ
จากนั้น ทั้งหมดขับรถฮอนด้าซีอาร์วี ที่เช่าโดย เปรี้ยว ไปรับผู้ตายหน้าปากซอยหอพัก ริมถนนเหล่านาดี ตัดถนนหน้าเมือง โดยมี วศิน เป็นคนขับ
วินาทีเสียชีวิต ภายในรถ เปรี้ยว เป็นผู้ลงมือ "บีบคอ" ผู้ตายจนเสียชีวิต กลุ่มจำเลย ได้ขับรถวนไปเรื่อย ๆ ในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อซื้ออุปกรณ์อำพรางทำลายหลักฐาน เช่น ถุงพลาสติก มีด เลื่อย และของมีคม ก่อนจะขับรถเข้ามาเปิดห้องที่รีสอร์ทในพื้นที่บ้านหัวถนน ม.5 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
วศิน สารภาพอ้างว่าเห็น เปรี้ยว เป็นคนจัดการหั่นศพ แอ๋ม แล้วยัดใส่ถัง 2 ใบที่ห้อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วผู้หญิงทั้ง 3 คน ได้อาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องพัก ก่อนนำกุญแจห้องไปด้วย และยังไม่จ่ายเงินค่าห้อง เปรี้ยว ให้ วศิน ยกศพที่บรรจุใส่ถังเรียบร้อยแล้วเอาขึ้นรถ
ภายหลังขับรถจากออกจากรีสอร์ท นำศพไปฝังดินทิ้งไว้ที่ บ.โนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง ในส่วน เบนซ์ แฟน วศิน ถูกจับกุมที่บ้านพักญาติในอุบลราชธานี โดยทำหน้าที่นำทรัพย์สินของผู้ตายไปจำหน่าย
ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานต่าง ๆ ในห้องรีสอร์ทที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจดีเอ็นเอของผู้ตายและผู้ต้องหาในคดีนี้
คดีนี้ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า พร้อมวรรคทองของจำเลย "หากไม่เจอกันวันนั้น น้องแอ๋ม ก็คงไม่ตาย"
สาเหตุ ทำไมต้อง หั่นศพ น้องแอ๋ม จากการสอบปากคำเปรี้ยว บอกว่า หลังจากพลั้งมือฆ่าผู้ตาย ก็เกิดความตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่เมื่อทำให้คนตายแล้ว ในหัวคิดได้เพียง 2 วิธีในการอำพรางศพ คือ 1. ถ่วงน้ำ 2. หั่นศพ
เหตุที่เลือกวิธีการหั่นศพ เพราะคิดว่าหากนำไปถ่วงน้ำ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันศพก็คงจะโผล่ จึงตัดสินใจ หั่นศพ
เปรี้ยว สารภาพว่า เมื่อตัดสินใจว่าจะหั่นศพ ได้แยกย้ายไปซื้ออุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงพาร่างของผู้ตายไปยังสถานที่เป้าหมาย ที่มีการเข้า-ออกมาก่อนหน้านี้เป็นประจำ เมื่อเริ่มลงมือหั่นศพ เปรี้ยว ยอมรับว่า ทำได้อย่างยากลำบากเพราะไม่มีความชำนาญ และในการหั่นศพ มี วศิน เป็นผู้ช่วย
สำหรับ การหลบหนีออกนอกประเทศ ยืนยันไม่มีใครช่วย เปรี้ยว บอกว่า เคยเดินทางเข้าออกประเทศอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ฉะนั้น การหลบหนีจึงไม่มีความจำเป็นต้องให้ใครมาช่วยเหลือ
แต่สาเหตุใดจึงยอมมามอบตัว ทั้งที่หลบหนีออกนอกประเทศได้นานถึง 10 วันแล้ว ไม่รู้จะหนีไปหลบที่ไหน อีกทั้ง ไม่ต้องการให้คนที่เอื้อเฟื้อให้ที่พักพิงได้รับความเดือดร้อนไปด้วย หลังจากถูกหน่วยงานทางราชการไทยเข้ากดดันอย่างหนัก
คดีนี้ จำเลย ทุกคนรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง ตามข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร
คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ตาม ม.289 นี้ โทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต