
"กำลังพลสำรอง" ก็คือ พลทหารที่ปลดประจำการไปแล้ว รวมไปถึงนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. ซึ่งในที่นี้จะเน้น รด.เป็นหลัก โดยที่ผ่านมา ก่อนมีกฎหมายใหม่ แทบไม่เคยมีการเรียกฝึกทบทวนอดีตนักศึกษาวิชาทหารเลย หรือแม้จะมีการเรียก แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ
แต่ปัจจุบัน มีกฎหมายกำลังพลสำรองแล้ว บังคับใช้ตั้งแต่ปี 58 กองทัพจึงมีอำนาจเรียกกำลังพลกลับมาฝึกทบทวนได้ โดย พลโท ปรีชา สายเพ็ชร เจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม บอกว่า การเรียกให้มาฝึก ก็เพื่อซักซ้อมและเตรียมความพร้อม เพราะกองทัพจำเป็นต้องใช้กำลังพลสำรองมาตอบสนองงานความมั่นคง จึงต้องมีการทบทวนฝึกหัดและมีขั้นตอนการปฏิบัติ
พลโทปรีชา ฝากบอกไปถึงชายไทยวัยทำงานว่า ไม่ต้องตกใจกลัวจนเกินไป เพราะใครที่อยู่ในข่ายถูกเรียก กองทัพจะแจ้งไปล่วงหน้า ทั้งตัวบุคคลนั้นๆ และบริษัทห้างร้านที่ทำงานอยู่ หากไม่ให้ความร่วมมือ จะมีโทษทางกฎหมาย ฉะนั้นจึงอยากให้ร่วมมือกันมากกว่า สำหรับบุคคลเป้าหมายที่อยู่ในข่ายถูกเรียก จะเน้นไปที่ ผู้ที่จบ รด. ปี 3 และปี 5 โดยจะเรียกคนที่อายุไม่เกิน 39 ปี นอกจากนั้นก็เป็นกลุ่มอดีตทหารเกณฑ์ แต่การฝึกจะไม่หนักเหมือนกับทหารทั่วไป เน้นเบาไปหนัก ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นภาระของประชาชน
นอกจากนั้นในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ จะมีการแสดงศักยภาพของกำลังพลสำรอง 3 เหล่าทัพ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน เพื่อทดสอบผลการดำเนินการของทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ในการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลสำรองให้สามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับ "กำลังประจำการ" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะได้รับทราบถึงบทบาทและความสำคัญของกำลังพลสำรองที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศด้วย