ทรัมป์หนุนดอลลาร์แข็งค่าอีก มั่นใจเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันทรัมป์ก็เตรียมพร้อมกลับลำพิจารณาการเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ TPP อีกครั้ง หากสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีขึ้นได้มากกว่าเดิม

ส่วนประธานธนาคารกลางยุโรปประกาศจับตามองการแข็งค่าของยูโรเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของยุโรป รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อ และจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ด้วย


1, ประธาราธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงหนุนดอลลาร์แข็งค่า ให้สัมภาษณ์ CNBC เมื่อเดินทางถึงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ถึงการสนับสนุนดอลลาร์ให้แข็งค่า โดยเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง

ส่วนการที่สตีเวน มูนชิน ได้กล่าวสนับสนุนการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เป็นสิ่งที่า สื่อตีความคำพูดดังกล่าวผิดไป เพราะความจริงที่เศรษฐกิจสหรัฐมีภาวะที่แข็งแกร่ง จึงไม่ควรที่ใครจะพูดถึงเงินดอลลาร์ในทิศทางที่ตรงกันข้าม

โดยผู้นำสหรัฐจะขึ้ยกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบาย America First ในเวทีของ WEF ในวันนี้



2. ล่าสุด สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาตอกย้ำถึงความเห็นต่อค่าเงินดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีความชัดเจนอยู่แล้ว โดยที่มีความสอดคล้องกับสิ่งที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่มีความกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น ซึ่งอาจจะมีผลกระทบทั้งทางบวกและลบ และยีนยันว่า สหรัฐไม่ต้องการทำสงครามการค้า แต่จะปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และต้องการให้มีการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้กล่าวก่อนหน้านี้ โดยยืนยันถึงดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ส่งออก รวมถึงสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และยังให้การสนับสนุนการค้าที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งเป็นการสนับสนุนว่าการขยายตัวที่แข็งแกร่งของสหรัฐ



3. ขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์พร้อมกลับลำ เตรียมพิจารณาการเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ TPP (Trans-Pacific Partnership) อีกครั้ง โดยให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อาจจะเข้าร่วมข้อตกลง TPP หากสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีขึ้นได้มากกว่าเดิม

หลังจากก่อนหน้านี้ ข้อตกลง TPP นั้นจัดทำขึ้นมาได้แย่มาก หากเราสามารถทำให้ TPP ดีขึ้นได้ ก็จะเปิดกว้างให้กับข้อตกลงดังกล่าว

ซึ่งปัจจุบัน TPP มีสมาชิกเหลืออยู่ 11 ประเทศจากเดิม 12 ประเทศ เนื่องจากภายหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมในปีที่แล้ว ได้ประกาศถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิก TPP ทั้งที่ทีมงานในทำเนียบขาวได้ให่การสนับสนุนข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายการค้ามาโดยตลอด



4. การออกโรงหนุนเงินดอลลาร์ของผู้นำสหรัฐ ส่งผลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.42 เยน จากระดับ 109.05 เยน ดอลลาร์ยังแข็งค่าเทียบยูโรแตะ 1.2394 เลลาร์ จากระดับ 1.2404 ดอลลาร์ และเทียบเงินปอนด์แตะ 1.4124 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4214 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ 0.9425 ฟรังก์ จากระดับ 0.9453 ฟรังก์

ขณะที่ทิศทางของ Dollar Index มีการปรับขึ้นมาอยู่ที่ 89.39 แต่ก็ยังเป็นการปรับตัวที่ลดลง 2.97% นับตั้งแต่ตันปีมานี้ หลังจากช่วงการซื้อขายระหว่างวันได้ร่วงลงลึกที่ระดับ 88.7530 เป็นการอ่อนค่าลงถึง 3.66% นับตั้งแต่ตันปี 2018



5. ส่วนการเคลื่อนไหววของมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ชี้ว่า การแข็งค่าของยูโรเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้ ECB ต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของยูโร เนื่องจากการแข็งค่าของยูโรได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของยุโรป รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อ และจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ด้วย

โดยที่เงินยูโรพุ่งขึ้น 0.91% สู่ระดับ 1.2519 ดอลลาร์ ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาที่ 1.2447 ดอลลาร์ฝนช่วงเช้าวันศุกร์