เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ส.ค.60 ที่สน.หัวหมาก นายพัชรากร จัทรวิชิต อายุ 23 ปี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนันสนุนจุด สน.หัวหมาก เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สุทัศน์ แสงสุข รอง สารวัตร(สอบสวน) สน.หัวหมาก เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีถูกอาสาสมัครมูลนิธิดัง ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายและแย่งโทรศัพท์ไป ขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบริเวณปากซอยรามคำแหง 51/3 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยมี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 และพ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก เป็นผู้รับเรื่อง
นายพัชรากร กล่าวว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวานออกจากงานประจำก็จะออกมาเป็นจิตอาสาของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประจำจุด สน.หัวหมาก ซึ่งในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 24.30 น.(15 สิงหาคม) ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่ามีเหตุรถชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณปากซอยรามคำแหง 53 ตนและเพื่อนอาสาคนอื่นๆจึงรุดไปตรวจสอบ ระหว่างได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งว่ามีเหตุรถชนบริเวณซอยรามคำแหง 51/3 ซึ่งเป็นทางผ่านพอดี ตนจึงเร่งตรวจสอบตรงจุดนี้ก่อน เมื่อไปถึงบริเวณปากซอยพบเป็นเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถแท็กซี่ มีคนเจ็บเป็นชาย 1 ราย ระหว่างนั้นมีอาสาสมัครมูลนิธิดังแจ้งวิทยุว่าจะมาตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งตนก็เห็นว่าวิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ
"โดยปกติตนชอบถ่ายวิดีโอการทำงานของเพื่อนอาสาไว้ และเพื่อเป็นหลักฐานหากทรัพย์สินผู้บาดเจ็บสูญหายจะได้ตามได้ถูก ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานมีรถอาสาสมัครมูลนิธิดังมาจอดหน้ารถของพวกตน พร้อมลงมาเพื่อดำเนินการคนเจ็บ ซึ่งจากที่มีการพูกคุยก่อนหน้านี้ อาสาที่ถึงก่อนไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิใดก็จะสามารถดำเนินการได้ แต่เคสนี้ยืนยันว่าพวกตนมาถึงก่อน แต่เพื่อลดการกระทบกระทั่งจึงยอมถอยออกมา และให้อาสาสมัครมูลนิธิดังดำเนินการนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นได้มีนายหนุ่ย ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นอาสาสมัครมูลนิธิดังเดินเข้ามาปัดโทรศัพท์และดึงโทรศัพท์ตนไป พร้อมกับกระชากคอเสื้อตนและข่มขู่ให้ลบคลิปออก ซึ่งตนไม่ยอม ก่อนจะดึงโทรศัพท์กลับมา โดยขณะนั้นก็มีเพื่อนอาสาอีก 2 คนที่ถ่ายคลิปที่ถูกข่มขู่ไว้เช่นกัน วันนี้จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนอาสาคนอื่นๆ เพราะตนเชื่อว่าเรื่องไม่น่าจะจบเพียงเท่านี้"
พล.ต.ต.นันทชาติ เบื้องต้นจะมอบหมายให้ทาง ผกก.ดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับทราบเรื่องกระทบกระทั่งกันระหว่างมูลนิธิอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นมูลนิธิเดิมๆที่เคยก่อเหตุ หลังจากนี้หากพบว่ามีการกระทบกระทั่งกันในพื้นที่เมื่อใดก็จะดำเนินการตามกฏหมายทั้งหมด