จากการตรวจสอบภายในรถ พบเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีเหลือง-ดำ 1 ตัว หมวกแก็ปสีดำ 1 ใบ กระเป๋าสะพายลายสีดำแดง 1 ใบ ผ้าปิดปาก 1 ผืน และอาวุธปืนอัดลมสีดำ 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณจุดจอดรถบ้านไม่มีเลขที่ท้ายซอยอ่อนนุช 17 แยก 24 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อช่วงกลางดึก(14 ก.ค.)ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ธงชัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มีนาคม เวลาประมาณ 02.30 น.ได้มีคนร้ายใช้ผ้าปกปิดใบหน้ามีลักษณะรูปร่างท้วมผิวขาว สวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมกางเกงยีนสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง สะพายกกระเป๋า โดยมีอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติสีดำ ได้ทำการชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น บริเวณปากซอยพัฒนาการ 53 แขวงและเขตประเวศ กทม.โดยได้เงินสดไป 3,000 บาท บัตรเติมเงินดีแทค มูลค่า 2,000 บาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ จึงได้ทำการสอบสวน จนสามารถตามจับกุมมาได้ ด้วยการแกะรอยจากการใช้บัตรเติมเงินจนทราบว่าคนร้ายคือนายเรืองศักดิ์ ไชยบาล อายุ 54 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ ได้ทำการสอบสวนจนทราบที่อยู่ของคนร้าย คือบ้านไม่มีเลขที่ท้ายซอยอ่อนนุช 17 แยก 24 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.
พ.ต.อ.ธงชัย เปิดเผยต่ออีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านพักหลังดังกล่าว ก็ได้พบกับนายเรืองศักดิ์กำลังขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้เข้ามาจอดในสถานที่ดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าตำรวจจะแสดงหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง และเข้าจับกุมตัวในที่สุด
จากการสอบสวน นายเรืองศักดิ์ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุจริง และได้ก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว นายเรืองศักดิ์กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นคนขับรถให้บริษัทญี่ปุ่น มีรายได้ต่อเดือน 3 หมื่นกว่าบาทต่อเดือน แต่ระยะหลังนี้ประสบณ์ปัญหา ลูกชายของตนต้องแต่งงาน ตนจึงไปยืมเงินเพื่อให้ลูกชายแต่งงานเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ประกอบกับตนมีบ้านเล็กบ้านน้อยหลายคน ที่ต้องเลี้ยงดู ตนจึงไปซื้ออาวุธปืนอันลมเพื่อมาทำกาปล้นดังกล่าว มาทำการปล้น ตนยอมรับว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งก่อนหน้าที่ตนไม่เคยก่อนดังกล่าวมาก่อนเลย ส่วนเงินสดที่ได้ตนได้เอาไปให้บ้านเล็กบ้านน้อย ส่วนบัตรเติมเงินนั้นตนได้นำมาใช้เอง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา"ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้มีเหตุอันควร" ก่อนนำตัวนายเรืองศักดิ์ส่งพนักงานสอบสวนสน.ประเวศเพื่อดำเนินคดีต่อไป