จากการสอบถามพระมนูกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. อาตมาและพระลูกวัดทั้งหมดได้ถูกนิมนต์ให้ลงไปสวดอภิธรรมศพที่ศาลาการเปรียญของวัด โดยหลังจากออกจากกุฎิอาตมาก็ได้ใช้กุญแจล็อกประตูกุฎิไว้ ลงไปสวดศพใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็กลับมาที่กุฎิ พอมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าประตูกุฎิเปิดอ้าออก พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าประตูได้ถูกคนร้ายงัดจนพัง อาตมาก็รีบเข้าไปดูในกุฎิ ก็พบว่าเงินสดที่ใส่ไว้ในย่ามข้างที่นอนจำนวน 15,000 บาท ได้ให้ไป ซึ่งขณะนั้นพวกคณะกรรมการวัดยังอยู่ที่ศาลา อาตมาจึงได้ไปบอกว่ามีคนร้ายมางัดกุฎิขโมยเงิน ก่อนที่คณะกรรมการวัดจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
พระมนู กล่าวต่อว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นมีเงินหายไปหมื่นกว่าบาทเหมือนกัน แต่ตอนนั้นมีพระเครื่องหายไปหลายองค์ โดยส่วนใหญ่เป็นพระสมเด็จเกษไชโยก็ได้ถูกขโมยไปด้วย แต่ตอนนั้นตนไม่ได้แจ้งความ เพราะคิดว่าทำบุญทำทานไป แต่ไม่ทันไรคนร้ายก็กลับมาขโมยเงินไปอีก จึงต้องแจ้งให้ตำรวจทราบ
ด้าน ร.ต.อ. ฌัฐพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบสวน ทราบว่าคนร้ายได้ใช้จังหวะตอนที่พระทั้งหมดไม่อยู่บนกุฎิ ลงไปสวดศพ มางัดกุฎิและขโมยเงิน โดยงัดประตูห้องเข้าไปขโมยเงินที่ใส่ไว้ในย่าม เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นที่รู้ความเคลื่อนไหวภายในวัด และทราบว่าพระมนูได้เก็บเงินไว้ในย่าม มาฉวยโอกาสตอนที่ไม่อยู่ เข้ามาขโมยเงินไป อย่างไรก็ตามได้ประสานไปทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อขอดูภาพวงจรปิดที่หน้าทางเข้าวัดว่ามีใครเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ออกตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป