รรท.ผบช.น.กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากตำรวจ สน.ร่มเกล้า ได้รับประสานข้อมูลจากธนาคารกรุงเทพฯ ว่ามีชายต่างชาติผิวขาว 2 คนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมของผู้อื่นตระเวนกดเงินสดในพื้นที่ สน.ร่มเกล้า และบริเวณใกล้เคียง
ต่อมาวันที่ 6 มิ.ย.พบเบาะแสคนร้ายทั้งสองนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมไปกดที่ตู้กดเงินสดธนาคารกรุงเทพ หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาปากซอยกิ่งแก้ว 54 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังไปตรวจสอบแต่ไม่พบ จึงสอบปากคำพยานแวดล้อมรวมทั้งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จนทราบว่า ทั้งสองคนเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านพาร์ควิวซิตี้ ซอยกิ่งแก้ว 58 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตุการณ์
เมื่อพบคนร้ายเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบของกลางบัตรเครดิตจำนวน 39 ใบ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ร่มเกล้า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาตรวจสอบ แจ้งข้อหา ร่วมกันใช้และมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมโดยมิชอบโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน รรท.ผบช.น.กล่าวและว่า
จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสภาพและให้ข้อมูลว่า ยังมีเพื่อนร่วมขบวนการที่หลบหนีอีก 2คน สำหรับพฤติการณ์แก๊งสกิมเมอร์ชาวยูเครน จะติดกล้องอยู่ที่ตู้ ATM ซึ่งเครื่องจะอ่านเวลากดและจะจำหมายเลข จากนั้นจะนำไปแกะรหัส ซึ่งจะติดกล้องไว้ 3 เดือน เพื่อไม่ให้เห็นว่า ใครเป็นคนนำมาติด จากนั้นเมื่อแกะรหัสได้จะทำบัตรเครดิตปลอมและตระเวนกดตามตู้ ATM ต่างๆ โดยคนร้ายแก๊งนี้้มีทั้งหมด 4 คน เดินทางมาจากประเทศยูเครนในฐานะนักท่องเที่ยว เมื่อก่อเหตุแล้วจะส่งเงินกลับไปประเทศยูเครนและได้รับส่วนแบ่งจำนวน 2,000 ดอลล่าห์สหรัฐฯ โดยช่วงวันที 3-6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ตระเวนกดเงินจากตู้ ATM ไปแล้วจำนวน 22 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 แสนบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ต้นทางในการทำสกิมเมอร์อยู่พื้นที่่ จ.ลำปาง กำลัขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ