โดยผู้ต้องหาคือ นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ อายุ 58 ปี ฐานความผิด เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมี พ.ต.ต.บรรเจิด กระจ่างแสง เป็นพนักงานสอบสวน และวันนี้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเข้าดำเนินการปิดป้ายสั่งรื้อถอนพื้นที่บุกรุกดังกล่าว
สำหรับพื้นที่บุกรุกประกอบด้วย สะพานคอนกรีต พื้นปูน เสาปูน คิดเป็นพื้นที่ 390.62 ตรม. สะพานทางเดินลักษณะพื้นเหล็ก เสาเหล็กกว้าง 2.10 เมตร ยาว 34.80 เมตร พื้นที่ 73.08 ตรม. ทางลาดแผ่นเหล็กสำหรับลงเรือ พร้อมโครงเหล็ก และชุดอุปกรณ์กว้าง 4 เมตร ยาว 11 เมตร พื้นที่ 44 ตรม. เสาเหล็กสำหรับกันกระแทก ปักลงไปในทะเล ศาลาที่พักพื้นเหล็ก โครงเหล็ก กว้าง 3 เมตร ยาว 10.10 เมตร พื้นที่ 30.30 ตรม. รวมพื้นที่บุกรุก 538 ตรม. มูลค่าความเสียหายต่อรัฐ 50,437.50 บาท
ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่นำแผ่นป้ายไปปิดประกาศที่บริเวณเสาแรกด้านซ้ายของศาลาพักผู้โดยสารแล้ว ก่อนเดินทางออจากท่าเทียบเรือ นายสุทิน อ่าวเกษม ผู้ดูแลท่าเทียบเรือ เกาะช้างเฟอร์รี่ พยายามจะปิดประตูทางเดินออกจากท่าเรือ โดยกล่าวหาว่า เจ้าพนักงานทั้งหมดบุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามชี้แจงถึงการมาปฎิบัติงานตามหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย นายสุทิน จึงยินยอมเปิดประตูให้ออก ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าเห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย ก็สามารถฟ้องร้องได้
นายนิตย์ชัย กล่าวว่า คำสั่งนี้เป็นการปิดประกาศให้ทราบ ซึ่งผู้กระทำความผิดจะต้องรื้อถอนหรือปรับสภาพให้คงเดิม ภายในวันที่ 22 มิ.ย.2559 หรือภายในเวลา 45 วันหลังปิดประกาศ และหากผู้ถูกกล่าวหายังไม่ปฎิบัติตาม เจ้าหน้าที่จะปิดประกาศรอบสอง เป็นการปิดประกาศให้ทราบ ซึ่งรอบสองผู้กระทำความผิดจะต้องทำการรื้อถอนภายในเวลา 45 วัน หากครบสองครั้ง 90 วัน ผู้กระทำความผิดไม่ดำเนินการใดๆ ทางอุทยานจะเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่รุกเขตอุทยานแห่งชาติให้กลับสู่สภาพเดิมต่อไป