svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เรื่องเล่า...สุสานเผานั่งยาง

ก่อนที่ตำรวจจะไปพบสุสานเผานั่งยางกลางป่า 15 ศพ ใน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ป่าแห่งนี้มีเรื่องเล่าปากต่อปากจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า เป็นจุดดักปล้นในอดีต และกลายเป็นจุดอำพรางคดีฆาตกรรม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ เก็บวัตถุพยานอย่างละเอียดอีกครั้ง ติดตามได้จากรายงานชิ้นนี้

ทางเกวียนยาวกว่า 400 เมตร ก่อนที่จะเข้าไปถึง ป่าที่ชาวบ้านเรียกว่า "โคกเฒ่าคำภา" ต.หนองแวง อ.บ้านผือ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ป่าแห่งนี้จะกลายเป็นสุสานเผานั่งยางที่พบกว่า 15 จุด โดยทางเข้ามีศาลพระภูมิ เครื่องเซ่นไหว้สะเดาะเคราะห์ วางทิ้งจำนวนมาก ในสภาพป่าโปร่งใกล้เชิงเขา และเมื่อเป็นฤดูฝนจะเป็นป่ารถทึบสุสานแห่งนี้่ถูกเปิดเผย จากการแกะรอยฆาตกรรมเผานั่งยาง นางบังอร ทองอ่อน อายุ 57 ปี นายทุนเงินกู้นอกระบบ ต.โนนทอง อ.บ้านผือ เมื่อ 9 มิ.ย.57 ก่อนจะพบว่าถูกฆ่าและนำมาเผาอำพราง ในป่าโคกเฒ่าคำภาผืนนี้ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 900 ไร่ และพบศพที่ถูกฆ่า แล้วนำมาเผาอีกเป็นจำนวนมาก รอระหว่างการพิสูจน์ บริเวณที่พบร่องรอยการเผานั่งยางมีเนื้อที่ร่วม 1 ไร่เศษ พบหลุมศพ 15 จุด และปรากฎว่า 8 จุด พบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ ซึ่งแต่ละจุดมีความแตกต่างกัน พบวัตถุพยาน คือ ชิ้นส่วนของกระดูก เศษเชื้อเพลิง ยางรถยนต์ และลวด วัตถุพยานอื่นอย่าง กระดุมเหล็ก หัวเข็มขัดนาฬิกา และเครื่องประดับ ขณะที่บางหลุมถูกเผามานานหลายปี ไม่พบซากกระดูกเหลือเพียงเถ้าสีดำ

เรื่องเล่า...สุสานเผานั่งยาง

จากการตรวจสภาพป่า และจุดเผานั่งยาง จนยืนยันได้ชัดเจนว่ามีการเผามนุษย์ 6 จุด ส่วนที่เหลือคาดว่าเป็นของเก่า ที่ก่อเหตุมานาน ตำรวจจึงต้องนำหลักฐานทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์ แยกเก็บรายละเอียดแต่ละกอง โดยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาร่วมตรวจสอบ ส่วนจะเป็นศพมนุษย์หรือไม่ต้องรอผลตรวจสอบจากดีเอ็นเอ ที่ญาติแจ้งบุคคลสูญหาย มาตรวจเปรียบเทียบเคียงขณะวันนี้มี การประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ และใช้หลักนิติเวชวิทยาเข้าม่าร่วมด้วยพิสูจน์ โดยพล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี บอกว่า สามารถยืนยันได้ว่ามีการเผามนุษย์จริง 6 จุด และในวันพรุ่งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่เก็บวัตถุพยานทั้ง 15 จุดอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ป่าโคกเฒ่าคำภา เป็นพื้นที่เปลี่ยว และเป็นจุดดักปล้นฆ่าในอดีต หลายคนได้ยินเรื่องเล่าปาก ต่อปากว่าบริเวณนี้มีคนถูกฆ่า และนำมาเผานั่งยางเป็นจุดอำพรางคดี จนในยามค่ำคืนไม่มีใครกล้าเดินทางผ่านป่าแห่งนี้ จะเข้าเฉพาะช่วงหน้าแล้งป่าโปร่งเพื่อหาไข่มดแดง และเก็บของป่า