
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2559 นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีมีการแชร์ภาพประกาศเชิญชวนทำบุญแนวใหม่ด้วยการถวายไอศกรีมชื่อดังเป็นสังฆทานแก่พระสงฆ์ 1,500 รูป ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดในพิธีบูชาข้าวพระ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานีว่า กรณีไอศกรีมนั้นถือว่าเป็นน้ำปานะได้ แต่ต้องทำมาจากน้ำผลไม้ เนื้อไอศกรีม เช่น กะทิ ช็อกโกแลตล้วนๆ ไม่มีเนื้อผลไม้ ถั่ว เมล็ดแอลมอนด์เจือปนเพื่อไม่ให้ผิดหลักพระธรรมวินัย รวมถึงภาชนะที่บรรจุไอศกรีมก็ต้องให้เหมาะสม หากให้พระฉันโดยกัดกินไอศกรีมคงไม่เหมาะสม ส่วนกรณีที่มีกระแสพุทธศาสนิกชนอยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)เข้าไปตรวจสอบนั้นก็สามารถไปร้องเรียนได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในพื้นที่
ด้านนายพิศาฬเมธ แช่มโสภา อดีตผอ.ส่วนงานมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและผู้จบเปรียญธรรม 9 ประโยค กล่าวว่า ตามหลักพระธรรมวินัยมองว่าไอศกรีมถือเป็นน้ำปานะสามารถถวายพระได้ซึ่งพระฉันได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกับน้ำอัดลม แต่จะต้องเป็นไอศกรีมที่ทำมาจากน้ำผลไม้ล้วนๆ ไม่มีเนื้อผลไม้เจือปน เช่น มะพร้าว ลอดช่อง ถั่วดำ สตรอว์เบอร์รี เมล็ดแอลมอนด์ เนื่องจากเป็นของที่ต้องขบเคี้ยว หากญาติโยมนำไอศกรีมที่มีเนื้อผลไม้เจือปนจะผิดพระธรรมวินัยต้องอาบัติในข้อ "ภิกษุฉันของเคี้ยวของฉันที่เป็นอาหารในเวลาวิกาลคือตั้งแต่เที่ยงแล้วไปจนถึงวันใหม่" ต้องปาจิตตีย์ รวมทั้งหากจะถวายไอศกรีมก็ควรใส่ภาชนะให้เหมาะสมเช่นถ้วยกระดาษและมีช้อนตัก หากถวายไอศกรีมแบบเป็นแท่งให้พระฉันโดยต้องมีการกัดกินจะไม่เหมาะสมต่อสมณวิสัย
"ในหลักพระธรรมวินัยมีเรื่องของผู้ทำให้ซึ่งก็หมายถึงลูกศิษย์ที่ถวายภัตตาหารหรือน้ำปานะ ก็ต้องทำให้เหมาะสมกับสมณวิสัยอย่างกรณีน้ำปานะ หากจะถวายน้ำมะม่วงก็ควรคั้นเป็นน้ำ ไม่มีเนื้อเจือปน รวมถึงภาชนะบรรจุก็ควรให้เหมาะสมจึงค่อยถวายเพื่อไม่ให้พระผิดพระธรรมวินัยและต้องอาบัติ" นายพิศาลเมธ กล่าว
ทั้งนี้ น้ำปานะหมายถึง น้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้ ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่พระภิกษุให้รับประเคนแล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด 1วัน 1 คืน เรียกว่า ยามกาลิกโดยทรงอนุญาตไว้ 8 อย่างได้แก่ น้ำมะม่วง,น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า,น้ำกล้วยมีเมล็ด,น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด,น้ำมะปราง