"สุรินทร์ โตทับเที่ยง" แจ้งความ พี่ชายคนโตกับพวก ฐานทำให้เสียชื่อเสียง

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 จากกรณีข่าวปัญหาความขัดแย้งของพี่น้องตระกูล โตทับเที่ยง ตระกูลนักธุรกิจชื่อดังชาวจังหวัดตรัง ทั้งธุรกิจอาหารกระป๋อง ธุรกิจกลุ่มโรงแรม และอสังหาริมทร์ ที่นายสุธรรม โตทับเที่ยง พี่ชายคนโตของตระกูล มีหนังสือประกาศให้นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือทุกซึ่งเป็นน้องชายคนที่ 2 ของตระกูล และครอบครัวสายตรงไม่ให้ใช้นามสกุลโตทับเที่ยงอีกต่อไป โดยยื่นคำขาดให้เปลี่ยนนามสกุลภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ
และต่อมาทางนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ได้มอบหมายทนายความทำหนังสือโต้แย้งไปถึงนายสุธรรม โตทับเที่ยง พี่ชายคนโต เพื่อขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว บอกว่า เป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริต กรณีขอให้เปลี่ยนนามสกุล โดยยืนยันไปถึงนายสุธรรมและพี่น้องร่วมใช้นามสกุลทุกคนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณสุรินทร์ฯได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อปกป้องธุรกิจที่ครอบครัวโตทับเที่ยงมีส่วนเกี่ยวข้อง กับทั้งให้เกียรติและเคารพรักพี่น้องร่วมสายโลหิตทุกคนมาโดยตลอด
ดังนั้น คุณสุรินทร์ฯ จึงไม่อาจยอมรับในข้อเรียกร้องดังกล่าวที่ให้เปลี่ยนนามสกุลได้ พร้อมระบุ กรณีประกาศของพี่ชายคนโตมีการนำไปเผยแพร่ต่อพนักงานของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) และบุคคลทั่วไปอย่างกว้างขวาง ทั้งเป็นการเผยแพร่โดยใช้เอกสารและเป็นการนำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในประกาศที่ทำให้คุณสุรินทร์ฯและครอบครัวเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง พร้อมขอให้นายสุธรรมและผู้เกี่ยวข้องยุติการดำเนินการในทันที มิฉะนั้นจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญากับนายสุธรรมและผู้เกี่ยวข้องตามมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 นายสุธี ผ่องไพบูลย์ ทนายความซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ให้เป็นผู้ชี้แจงข้อสงสัยต่อผู้สื่อข่าว กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า กรณีประกาศดังกล่าวที่นายสุธรรม พี่ชายคนโตและพวกนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชนทางโซเชียลมีเดียนั้น เบื้องต้น ในวันนี้นายสุรินทร์เตรียมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุธรรมและพวก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแล้ว ที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อรักษาสิทธิในการดำเนินคดี
นายสุธี กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการเปิดแถลงข่าวหรือไม่นั้น นายสุรินทร์แจ้งมาว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวก็อยากจะให้ยุติกันภายในครอบครัว ไม่อยากให้ต้องทำการเผยแพร่ไปสู่สังคมกว้างขวาง โดยระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2557 สาเหตุมาจากเรื่องการบริหารจัดการเรื่องธุรกิจภายในของตระกูลโตทับเที่ยง ที่ขัดแย้งกันทางความคิดและวิธีบริหารธุรกิจที่เห็นไม่ตรงกัน จึงเกิดปัญหาไม่ลงรอยและขัดแยังกัน แต่ไม่ได้เกิดจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องแนวคิดทางการเมืองแต่ประการใด
โดยปัญหานี้ มีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปมา ทั้งที่จังหวัดตรัง และที่กรุงเทพมหานคร รวมกว่า 10 คดี ระหว่างฝ่ายนายสุธรรมพี่ชายคนโต ที่มีน้อง ๆ รวม 8 คน กับนายสุรินทร์ที่มีเพียงคนเดียว จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน คงเหลือพี่น้องจำนวน 9 คน ทนายความคนเดิมกล่าว
นายสุธี ชี้แจงต่ออีกว่า ที่ผ่านมานายสุรินทร์กับอีกฝ่ายได้พยายามหาข้อยุติด้วยการนัดใกล่เกลี่ยกันแล้ว ในชั้นศาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีข้อยุติ และในวันนี้ผลจากการที่นายสุธรรมและพวกมีการทำหนังสือประกาศโฆษณาทางสังคมออนไลน์ เรื่องให้นายสุรินทร์เปลี่ยนนามสกุล โดยเห็นว่า เป็นการกระทำโฆษณาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นายสุรินทร์ก็จะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพิ่มอีก 1 คดี ส่วนคดีที่ศาลแพ่งธนบุรี นัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งที่ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ทนายความแจ้งว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณสุรินทร์เชื่อว่า คงไม่มีใครไปขึ้นศาล เพื่อร่วมไกล่เกลี่ยตามาที่ศาลนัดอย่างแน่นอน
ทนายความของนายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณสุรินทร์ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในครอบครัว ที่ไม่ควรนำเรื่องภายในครอบครัวออกไปเผยแพร่สู่สาธารณะชน ส่วนทางด้านคดีความทั้งหมด ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนพี่น้องจะหันหน้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกันได้อีกหรือไม่นั้น เชื่อว่าขึ้นอยู่กับหลักการของแต่ละฝ่ายว่าจะนำไปสู่การเจรจายุติปัญหากันได้หรือไม่
สำหรับนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง หรือที่รู้จักกันนาม เสี่ยปุ้มปุ้ย มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทต่าง ๆ ในเครือปุ้มปุ้ย (บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) )ทั้งหมด ทั้งโรงงานปุ้มปุ้ย โรงแรมธรรมรินทร์ โรงแรมธรรมรินทร์ธนา และธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นรองประธานหอการค้าไทย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดตรัง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งหอการค้าจังหวัดตรัง และเป็นประธานหอการค้าจังหวัดตรังคนแรกจนถึง สมัยที่ 7 - พ.ศ. 2541 เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดตรัง และเป็นผู้ริเริ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ทั้งงานวิวาห์ใต้สมุทร์ งานเทศกาลหมูย่างเมืองตรัง งานเทศกาลขนมเค้ก จนจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดี