แม่ประนอม"หลั่งน้ำตา"ถูกลูกโกงกิจการ

แม่ประนอม หลั่งน้ำตาที่ลูกทำกับแม่อย่างนี้ ย้ำแม่ให้อภัยลูกและขอให้ลูกทุกคนดูไว้เป็นตัวอย่าง อย่าทำกับพ่อแม่อย่างนี้ pic.twitter.com/3jkiVjqUTK

Supot Waewjapo (@SupotNTV) 26 มีนาคม 2559

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่ประนอม ร้องนายกฯ ลูกสาวฉ้อโกงกิจการ-ไล่ออกจากบ้านคลิป! แม่ประนอม ร้องขอความเป็นธรรมนายกฯ
เปิดหนังสือขอความเป็นธรรม"แม่ประนอม" กรณี ถูกลูกสาวฉ้อโกงกิจการ-ไล่ออกจากบ้านปลัดยธ.ระบุ กรณี "แม่ประนอม"ต้องรอฟังข้อมูลจากลูกสาวแนะให้ทำพินัยกรรมล่วงหน้า

---

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบางช่วงของการแถลงข่าวนางประนอมถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหว ร้องไห้ออกมาระหว่างการเปิดใจ โดยนางประนอม อ้างว่าถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร ส่งผลให้ตัวเองไม่มีอำนาจใดๆในบริษัท

นางประนอม ระบุพร้อมน้ำตาว่า อยากขอความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องมาทำถึงขนาดนี้ เพราะตอนนี้ จะซื้อ หอม กระเทียม เพื่อมาตำน้ำพริก ก็ต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นครั้งละ 5-6 พัน พร้อมฝากถามกับลูกสาวคนโตว่า หัวอกคนเป็นแม่ ทำไมถึงทำกับแม่แบบนี้

ฉันเริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ เดินขายน้ำพริกตามบ้าน พอเริ่มมีเงิน สามีเลยซื้อที่ดินเพื่อทำโรงงานน้ำพริกให้ จากนั้นก็ทำน้ำพริกขายตลอดมา จนมีรายได้ ต่อเดือนที่สามีต้องนำเงินไปฝากธนาคาร เดือนละเป็น 10 ล้าน แต่มาวันนี้เงินฉันหายไปหมดแล้ว และแม่ก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวคนโตเคยนำเอกสารมาให้เซ็นอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่สามียังมีชีวิตอยู่ จนมาทราบข่าวทีหลังเมื่อปีที่ผ่านมา ว่า เอกสารที่เซ็นไปนั้น คือ เซ็นยินยอมไม่รับมรดก และทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น และ มอบมรดกทั้งหมดให้ลูกสาวคนโต เพียงผู้เดียว นางประนอม กล่าว

นางประนอม กล่าวด้วยว่า หลังนายศิริชัย แดงสุภา สามีเสียชีวิต ก็ได้แต่งตั้งให้ตนเองเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมดและยอมรับว่าตัวเองไม่ได้ถูกไล่ออกจากบ้านตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ แต่ออกจากบ้านเองหลังรู้สึกกดดัน และ อึดอัด กับพฤติกรรมของคนในบ้านมานานกว่า 1 ปี

นางประนอม แถลงด้วยว่า เมื่อปีก่อนบุตรสาวคนโตได้ปลอมหนังสือมอบอำนาจไปโอนที่ดินมรดกเป็นของตัวเองและให้เซ็นเอกสารต่างๆ โดยยอมรับว่า ไม่ได้อ่านรายละเอียด เนื่องจากตัวเองอ่านหนังสือไม่ค่อยออก และอยากให้ปัญหาภายในครอบครัวยุติลงจึงเซ็นเอกสาร แต่มาทราบภายหลังว่าเอกสารดังกล่าวระบุว่า ตัวเองไม่รับทรัพย์สินหรือมรดกใดๆ จึงยื่นคำร้องถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปคือความจริงทั้งหมด

นางประนอม ระบุด้วยว่า ได้ยื่นฟ้องบุตรสาวคนโต และพวก คดีปลอมแปลงเอกสาร เกี่ยวกับที่ดิน ต่อศาลจังหวัดนครปฐม แล้ว ซึ่งศาลเห็นว่ามีมูลรับฟ้องไว้แล้ว แต่ในฐานะแม่ ก็พร้อมให้อภัยลูกเสมอและจะไม่ยื่นฟ้องคดีใดอีก หากลูกสำนึกผิด และโอนทรัพย์สินคืน

ด้านนางสาวศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวอีกคนของนางประนอม ระบุว่าหุ้นของนางประนอม และตัวเอง มีการเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นตั้งแต่ปี 2552 แต่ตัวเองมาทราบเมื่อปี 2557 ซึ่งมีการฟ้องร้องเรื่องจัดการมรดก ที่ศาลแขวงตลิ่งชัน และทราบว่าศาลจะมีคำสั่งเร็วๆนี้

"เคยถามกับพี่สาวคนโตว่าเอาชื่อแม่และน้องๆออกจากหุ้นบริษัททำไม แต่พี่สาวตอบว่า เป็นคำสั่งและความต้องการของคุณพ่อ ที่ผ่านมาได้พยายามต่อสู้ทางคดีความ แต่ก็ยังไม่เป็นผล น้องๆ ไม่มีสิทธิจะทะเลาะกับพี่สาว เพราะพี่สาวอยู่เหนือมาโดยตลอด" น.ส.ศิริวัลย์ กล่าว

ภายหลังนางประนอม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายทวิชา หวังโภคา ทนายของนางศิริพร บุตรสาวคนโตของนางประนอม เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รับคำชี้แจงว่า นางประนอม ได้ยื่นฟ้องนางศิริพร พร้อมสามี และ ทนายความอีกหนึ่งคน ฐานร่วมกันปลอมเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ต่อศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งศาลได้ยกฟ้องสามีของนางศิริพร ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว รับฟ้องเฉพาะในส่วนของนางศิริพร และทนายความ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนนัดสืบพยานโจทก์ และนางประนอม ยังได้ยื่นฟ้องนางศิริพร คดีเรียกคืนทรัพย์สินมรดก ต่อศาลแขวงตลิ่งชันด้วย ซึ่งมีการไกล่เกลี่ยคดีแล้วแต่ไม่สำเร็จ

นายทวิชา กล่าวต่อว่า จากนั้นนางประนอม ได้ให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ และสนิทสนม ร่วมพูดคุยกับนางศิริพร จนได้ข้อยุติ และนางประนอม จึงให้ผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งเป็นทีมทนายความของนางศิริพร ดำเนินการถอนฟ้องทั้งสองคดี ต่อทั้งสองศาลไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คดีถือเป็นที่ยุติ แต่ต่อมานางประนอม กลับยื่นคำร้องใหม่ต่อทั้งสองศาลทำนองว่าสาเหตุที่ถอนฟ้องไม่ได้เกิดจากเจตนาเช่นนั้น ศาลจังหวัดนครปฐม จึงนัดไต่สวนนางประนอม กรณียื่นคำร้องใหม่ วันที่ 4 เมษายนนี้ ส่วนศาลแขวงตลิ่งชัน นัดวันที่ 11 เมษายน ซึ่งนางประนอม ต้องเดินทางไปศาล

นายทวิชา ระบุด้วยว่า ในส่วนนางศิริพร นั้นเบื้องต้นไม่ขอโต้ตอบ หรือ ให้ข้อมูลใดๆ ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า คดีที่มีการฟ้องร้องกันที่ศาลอาญานครปฐม นั้นศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 4 เมษายนนี้ เป็นคดีที่นางประนอมยื่นฟ้องบุตรสาวคนโต และทนายความ กรณีปลอมเอกสารโอนที่ดิน ส่วนคดีที่ศาลแขวงตลิ่งชัน เป็นการฟ้องร้องกันในคดีแบ่งทรัพย์สิน เรียกคืนทรัพย์ มีการไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานางประนอมยื่นฟ้องศาลใหม่ว่าถูกหลอกเซ็นเอกสาร ซึ่งศาลนัดไต่สวนบ่ายวันที่ 11 เมษายน ที่จะถึงนี้