ก่อนอื่นเรามาคุยกับเจ้าของร้านกันสักหน่อยดีกว่า ว่าเค้ามีคอนเซปการทำร้านนี้อย่างไรกันบ้าง...
จุดเริ่มต้นคือ ความฝันที่อยากมีร้านเบอเกอรี่ของตัวเอง และหลังจากอิ่มตัวจากงานออฟฟิส วีก็เริ่มต้นทำ Yellow Spoon Pastry โดยตั้งใจว่าจะทำขนมที่ทานได้ทุกๆวัน อร่อย ไม่หวานจนเกินไป ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และที่สำคัญคือวีใส่ใจกับคุณภาพทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการนวดแป้ง หั่นแครอท คั้นน้ำส้ม วีลงมือทำทุกส่วนประกอบด้วยตัวเองหมด ความรู้สึกหลังทานขนม จะเหมือนลูกค้าได้ทำขนมที่อัดแน่นด้วยวัตถุดิบชั้นดี ทานเองที่บ้านค่ะ
แล้วนอกจากการขายหน้าร้านที่นี่แล้ว คุณวียังมีสาขาอื่น หรือขายในรูปแบบอื่นๆอีกไหมค่ะ
จริงๆช่วงแรก วีเริ่มจากการเป็นเบื้องหลังให้ร้านอื่นก่อนนะ เรารับ Consulting Service ที่บริการคิดเมนู ฝึกอบรมพนักงาน และขายส่งขนมไปยังร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโรงแรม อาทิ Toby's, Gameover, Wonderwall, Smalltalk, Elmar, Offwhite, Caracoli, Brasserie, Jasmine Plantation จากจุดนี้ทำให้ Yellow Spoon เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องสาขา นอกจากสาขาแรกที่เอกมัยแล้ว ตอนนี้เรายังขยายไปที่ห้างเอ็มควอเทียร์ ชั้น G และห้างเซ็นทรัลฯ ปิ่นเกล้า ชั้น G ค่ะ
ถ้ามีลูกค้าติดใจในรสชาติ และอยากสั่งไปทานที่บ้าน หรือสั่งไปจัดงานปาร์ตี้ คุณวีมีการขายในส่วนนี้ไหมค่ะ
เรามีบริการรับ-ส่งตามบ้าน และออฟฟิสด้วยค่ะ โดยใช้รถยนต์ในการขนส่ง ประหยัดเวลาลูกค้า และขนมปลอดภัยแน่นอน ซึ่งสามารถสั่งตรงกับวีได้ หรือจะผ่าน Food Panda หรือ Passion Delivery ก็ได้ค่ะ
มีอะไรอยากฝากถึงผู้ที่สนใจ อยากมาเยี่ยมชมร้านคุณวีไหม
อนาคตวีอยากเห็น Yellow Spoon เป็นที่รู้จักมากขึ้น อยากให้ลูกค้าได้ทานขนมจากกลุ่มคนที่ห่วงใยสุขภาพ จากสิ่งที่วีตั้งใจใส่ลงไปในขนมทุกชิ้นจริงๆ วีอยากให้คนที่ทานมีความสุข อร่อย และไม่อ้วนด้วยค่ะ
หลังจากพูดคุยกับคุณวีแล้ว ก็มาสำรวจร้านกันสักหน่อย ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจแบบง่ายๆสบายๆ ผนังอิฐมอญสีขาว กับสีเหลืองอุ่นๆ ของแบรนด์ และการจัดวางที่นั่งในแบบต่างๆอย่างเป็นกันเอง ให้บรรยากาศโดยรวมเหมือนนั่งจิบกาแฟยามบ่ายในบ้าน ทำให้เรารู้สึกไม่ขัดเขิน แม้จะมาคนเดียว ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ทุกๆมุมของร้านมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น
มุมสวีท สำหรับการมากับคนรู้ใจ จิบกาแฟยามบ่าย
มุมสังสรรค์ สำหรับปาร์ตี้เค้ก น้ำชา เฮฮากับเพื่อนฝูง
หรือมุมส่วนตัว สำหรับคนชอบนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ หรือพกโน๊ตบุ๊คมาทำงาน
และแล้วก็ถึงเวลาสั่งเมนูมาชิมกัน
เริ่มจากเมนูขายดีที่สุดของร้าน Lemon Meringue Tart (150.-) กับความหอมของเลมอนแท้ๆ เคล้ากับเมอแรง รสชาติจึงเปรี้ยวอมหวานกำลังดี ผสมความกรอบนิดๆของเนื้อทาร์ต นุ่มลิ้นอย่าบอกใคร
ต่อด้วยเมนูขายดีอีกอย่าง Canele (6 ชิ้น 130.- / 15 ชิ้น 300.-) คัสตาร์ดอบ ต้นกำเนิดจากฝรั่งเศส ที่พิเศษกว่าร้านอื่นๆคือ Canele ที่นี่จะอบจนกรอบนอก นุ่มหนึบข้างใน และมีขนาดพอดีคำ เมื่อทานคู่กับชาหรือกาแฟ จะช่วยตัดรสหวานได้อย่างกลมกล่อม
ถัดมาเป็นเมนู Signature อย่าง Dark Chocolate Cherry Flambe Tart (150.-) เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจาก Dark Chocolate 100% ผสานกับ Morello Cherry ที่ถูกนำไปผัดกับเหล้ารัม จึงได้รสเปรี้ยวตัดกับความขมหอมของช็อกโกแลตอย่างลงตัว ที่สำคัญ เมนูนี้ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลย เป็นความหวานจากช็อกโกแลตล้วนๆค่ะ
อีกเมนูที่พลาดไม่ได้คือ Sticky Date Pudding (95.-) พุดดิ้งจากอินทผาลัมอบแห้ง ที่ให้รสหวานธรรมชาติ กับสัมผัสอันนุ่มลิ้นจนถึงคำสุดท้าย
ตบท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มอย่าง Apple Iced Tea (120.-) น้ำแอปเปิ้ลคั้นสด100% พร้อมเนื้อแอปเปิ้ลฝานบางหลายชิ้น รสชาติเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ ผสมความหอมปลายลิ้นจากชา Earl Grey เรียกได้ว่าทั้งอร่อย และมีประโยชน์มากๆด้วยค่ะ
สำหรับคอกาแฟ พลาดไม่ได้กับเมนูนี้เลย Affogato (with homemade ice cream) (120.-) Espresso ร้อนเข้มกะลังดี ทานกับไอศกรีมวนิลาโฮมเมด ความเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้คือทุกอย่างทำเองหมด และไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่ไอศกรีมวนิลาถ้วยนี้ จึงหอมและไม่หวานมาก รสชาติละมุนสุดๆ
นอกจากนี้ในร้านยังมีเมนูอื่นๆที่น่าสนใจอีกกว่า 30 เมนู สลับมาให้ลูกค้าเลือกทานค่ะ
ถ้าผู้ใดสนใจอยากจะมาลิ้มลองรสชาติอันแสนอร่อย และเป็นเอกลักษณ์ของ yellow spoon pastry แล้ว อย่าลืมแวะมากันนะค่ะ
Yellow Spoon Pastry สามารถเข้าได้ 2 เส้นทางจาก ถนนสุขุมวิท 63 เลี้ยวเข้าซอยเอกมัย 19 ตรงมาประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ขวามือ แต่ถ้ามาจาก ถนนสุขุมวิท 55 เลี้ยวเข้าซอยธารารมณ์ 2 ร้านจะอยู่ด้านซ้าย สามารถจอดรถหน้าร้านได้ (เปิดทุกวัน 10.00-20.00 น.)
และสาขาน้องใหม่อีก 2 สาขา ได้แก่ที่ห้างเอ็มควอเทียร์ ชั้น G และห้างเซ็นทรัลฯ ปิ่นเกล้า ชั้น G (เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.)
โทร. 08-5482-2842
Line id: yspastry
IG: yspastry