ตร.ยึดรถหรูนำเข้าแอบสวมทะเบียน 14 คัน โป๊ะแตกโดนจับความเร็ว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รองผบช.ภ.5 และพล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ตรวจยึดรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย โดยการสวมซากรถยนต์ ซึ่งสามารถตรวจยึดรถยนต์ได้จำนวน 14 คันโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 
กลุ่มที่ 1 รถยนต์ที่สวมทะเบียนรถที่เกิดอุบัติเหตุชำรุดเสียหาย อยู่ในสภาพไม่สามารถซ่อมแซมเพื่อนำกลับไปใช้งานได้ มีทั้งหมด 7 คัน 
กลุ่มที่ 2 รถยนต์ที่นำทะเบียนรถคันอื่นมาสวมกับรถของตนแล้วนำมาใช้ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 มีทั้งหมด 2 คัน 
และ กลุ่มที่ 3 รถยนต์ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร มีทั้งหมด 5 คันประกอบด้วย รถยนต์สปอร์ตยี่ห้อ นิสสัน รุ่น 350 Z จำนวน 4 คัน และรถมินิคูเปอร์ รุ่นโรเวอร์ ทั้งหมด 1 คัน

จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า มีรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือหากซ่อมก็ต้องมีค่าซ่อมสูงจนไม่คุ้มค่าซ่อม และรถมีประกันภัยไว้ เมื่อบริษัทประกันได้ชดใช้ค่าสินไหมให้กับผู้เอาประกันแล้ว ได้นำซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุมาประมูลขายทอดตลาด 
ซึ่งกลุ่มผู้ประมูลจะไปประมูลมาขายต่อให้กับกลุ่มบุคคลที่ได้รถมาอย่างผิดกฎหมาย เช่น รถหลุดจำนำ รถที่ถูกขโมย และรถยนต์ที่ลักลอบนำเข้า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจจับความเร็วของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

พล.ต.ต.จำนงค์ กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ได้แอบสวมทะเบียนปลอม หรือทะเบียนจากรถคันอื่น โดยความมาแตกตอนที่โดนจับความเร็ว และทางตำรวจตรวจสอบเอกสารภาพถ่ายไปตามที่อยู่ของเจ้าของรถตามป้ายทะเบียน แต่พบว่ารถกับเจ้าของรถไม่ตรงกัน เจ้าของรถตัวจริงจึงไปแจ้งความ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวน จนสามารถตามยึดได้

สำหรับการกระทำผิดมีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยไม่ตั้งใจคือผู้ที่ถูกหลอกให้ซื้อรถมือสอง โดยไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์มือสองมากพอ และพวกที่ตั้งใจรู้ว่าผิดก็กระทำมาตั้งแต่แรก 
เพราะฉะนั้นอยากจะฝากประชาชน เวลาซื้อรถมือสองดูสมุดคู่มือรถให้ละเอียด หรือพาผู้ที่มีความรู้ไปดูด้วย และไม่ควรนำป้ายทะเบียนของผู้อื่นมาติดเพราะผิดกฎหมาย

"ทางตำรวจไม่เคยนิ่งนอนใจที่จะปล่อยให้รถผิดกฎหมายเหล่านี้มาวิ่งในทาง ทางตำรวจก็ได้มีสืบสวนและกวดขันจับกุมอยู่ตลอด เพราะรถยนต์เหล่านี้ผิดกฎหมาย หากประชาชนทราบเบาะแสหรือรู้แหล่งการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที" รอง ผบช.ภ.5 กล่าว