"ผมก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศของตนเองบ้างเหมือนกันแต่มันเปลี่ยนไมได้ จะให้ใครไปชี้แจงแทนนายกฯโดยตรงก็ไม่ได้ ผมก็คือตัวผม จะเห็นได้ว่าระยะที่ผ่านมาอารมณ์เย็นเป็นที่สุดเปิดดูในโซเชียลมาแต่ก่อนโมโหเดี๋ยวนี้ก็ไม่โมโห เพราะไอ้คนว่าก็คนเดิมนั่นแหละ ผมก็ให้สัมภาษณ์แบบเดิมเพียงแต่ทำหน้าที่ชี้แจงแทนพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ไปทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ก็แบ่งงานกันไปยังช่วยกันไปเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าทำงานด้วยกันรัฐบาลเดียวกันใครอยู่ตรงไหนก็เหมือนกัน เพียงแต่วิธีการนำเสนออาจจะได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ลุคใหม่หน่อย ไม่เบื่อหน้านายกฯเบื่อหรือยังจะได้หาคนมาชี้แจงแทนนายกฯ"
เมื่อถามว่า พล.ท.สรรเสริญ ยังรั้งตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์อยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็แยกหน้าที่กันไปเลย แบ่งหน้าที่กันใหม่เป็นการภายในได้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปออกคำสั่งอะไรใหม่ คุยกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร ทางพล.ท.สรรเสริญ ก็จะชี้แจงได้เหมือนกัน ถ้าสงสัยตรงนี้ไปถามตรงโน้นก็ได้ ทำไมเดี๋ยวนักข่าวก็ไปบอกว่าถูกขึ้นหิ้ง
เมื่อถามอีกว่า การปรับหน้าที่ครั้งนี้ เป็นการปรับกลยุทธ์การให้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า นายพุทธิพงษ์เป็นคนพูดภาษาง่ายๆ บางทีทหารพูดเป็นทางการ ซึ่งทางพล.ท.สรรเสริญ ไม่ได้บกพร่องอะไร เพียงแต่เปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นเอง เมื่อถามอีกว่า เป็นเพราะใกล้เลือกตั้งหรือไม่ถึงได้ให้คนที่เชี่ยว ชาญการเมืองอย่างนายพุทธิพงษ์เข้ามาทำหน้าที่โฆษกใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน การเมืองก็คือการเมือง