svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

วิธี “เช็ดตัวลดไข้” ในเด็กที่ถูกต้อง ผู้ปกครองต้องรู้

ข้อมูลแนวทางดูแล "ไข้ในเด็ก" ที่ถูกต้อง จากสถาบันสุขภาพเด็ก และ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ย้ำการเช็ดตัวลดไข้ควรใช้น้ำอุณหภูมิห้อง ห้ามถูแรง หากเด็กหนาวสั่นให้หยุดทันที พร้อมชี้อาการไข้ในเด็กที่ต้องรีบไปพบแพทย์

KEY

POINTS

  • การเช็ดตัวลดไข้เป็นเพียง "วิธีเสริม" ไม่ใช่วิธีที่จำเป็นเสมอไป โดยวิธีแรกที่แนะนำคือการให้ยาลดไข้ตามน้ำหนักตัวเด็ก
  • วิธีเช็ดตัวที่ถูกต้องคือใช้ "น้ำอุณหภูมิห้อง" เท่านั้น ห้ามใช้น้ำเย็นจัดหรือแอลกอฮอล์ โดยเช็ดเบาๆ บริเวณซอกคอ รักแร้ และขาหนีบ
  • ต้องหยุดเช็ดตัวทันทีหากเด็กมีอาการหนาวสั่น ร้องไห้ หรือรู้สึกไม่สบายตัว เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้

“ไข้” เป็นหนึ่งในอาการที่ผู้ปกครองพบได้บ่อยที่สุดในเด็ก และมักเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวลใจอย่างมาก กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้ข้อมูลสำคัญว่า การดูแลอาการไข้ในเด็กไม่จำเป็นต้องรีบรักษาให้ไข้ลงเสมอไป แต่ต้องดูแลให้เด็กสบายตัว และเข้าใจวิธีเช็ดตัวที่ถูกต้อง เพราะหากทำผิดวิธี เด็กอาจหนาวสั่นหรือตกใจได้

อุณหภูมิเท่าไหร่เรียกว่า “ไข้” ในเด็ก

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายว่า ภาวะไข้ในเด็กขึ้นอยู่กับวิธีวัดอุณหภูมิ ดังนี้

  • วัดจากหูหรือหน้าผาก : มากกว่า 38°C
  • วัดทางปาก : มากกว่า 37.8°C
  • วัดจากรักแร้ : มากกว่า 37.2–37.5°C

ทั้งนี้ หากเด็กยังเล่นได้ ยิ้มได้ กินได้ อารมณ์ดี ไม่จำเป็นต้องรีบลดไข้ทุกราย สิ่งสำคัญคือการดูแลให้เด็กรู้สึกสบายและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

ยาลดไข้ vs เช็ดตัว แบบไหนควรใช้ก่อน

1. ยาลดไข้ (พาราเซตามอล)

  • เป็นวิธีแรกที่แนะนำ
  • ควรให้ตามน้ำหนักตัวเด็ก
  • ปลอดภัยกว่าในเด็กส่วนใหญ่
  • หลีกเลี่ยงกลุ่มยา NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน หากสงสัยไข้เลือดออก หรือเด็กมีโรคไต โรคตับ หรือแผลในกระเพาะอาหาร

2. การเช็ดตัวลดไข้

แม้เป็นวิธีที่ใช้กันมานาน แต่จริง ๆ คือ “วิธีเสริม” ไม่ใช่วิธีจำเป็น แพทย์พบว่าการเช็ดตัวร่วมกับยา จะช่วยลดไข้ได้เร็วกว่าการกินยาอย่างเดียวในช่วง 1–2 ชั่วโมงแรก แต่ผลรวมระยะยาว ไม่ได้ทำให้ไข้ลดได้ดีกว่า

หากเช็ดตัวผิดวิธี เด็กอาจ:

  • หนาวสั่น
  • หวาดกลัว
  • ไม่สบายตัวมากขึ้น

วิธีเช็ดตัวเด็กอย่างถูกต้อง

แพทย์แนะนำขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

  • ใช้ น้ำอุณหภูมิห้อง เท่านั้น
  • ห้ามใช้น้ำเย็นจัดหรือแอลกอฮอล์
  • เช็ด เบามือ ตามบริเวณที่เลือดไหลเวียนดี เช่น
    • รักแร้
    • ซอกคอ
    • ขาหนีบ
  • หากเด็กหนาวสั่น ร้องไห้ หรือไม่สบายตัว ให้ หยุดเช็ดทันที
  • หลีกเลี่ยงการถูแรง เพราะจะยิ่งทำให้เด็กไม่สบายตัว

ทำไมเด็กถึงมีไข้ และควรดูแลอย่างไร

นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุว่า ไข้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อการติดเชื้อ เช่น ไวรัสหรือแบคทีเรีย ไม่ได้เป็นอันตรายเสมอไป จุดสำคัญคือผู้ปกครองต้องรู้วิธีดูแลเบื้องต้น ได้แก่

  • ให้ยาลดไข้ตามน้ำหนัก
  • ให้เด็กดื่มน้ำเพียงพอ
  • ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ
  • ให้เด็กอยู่ในห้องที่อากาศถ่ายเท
  • ไม่ห่มผ้าหนาเกินไป เพราะจะทำให้ความร้อนระบายช้า

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยยังได้จัดทำ แนวทางดูแลไข้ในเด็กจากหลักฐานทางการแพทย์ ซึ่งช่วยให้ผู้ปกครองและบุคลากรทางการแพทย์มีข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ (thaipediatrics.org)

สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพาเด็กพบแพทย์

แม้ไข้ส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่หากเด็กมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน

  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน มีไข้
  • เด็กมีอาการซึม ไม่เล่นเหมือนเดิม
  • มีอาการชัก
  • หอบเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
  • มีผื่นแดง จุดเลือดออก หรือจุดแดงผิดปกติ
  • ปลายมือปลายเท้าเย็น ซีด
  • ไข้ไม่ลดลงภายใน 2–3 วัน

สรุป

การดูแลไข้ในเด็กให้ปลอดภัย ไม่ใช่เรื่องของการ “รีบทำให้ไข้ลดทันที” เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการดูแลให้เด็กสบายตัว สังเกตอาการอย่างถูกต้อง และรู้ว่าควรพาไปพบแพทย์เมื่อไร การเช็ดตัวสามารถช่วยได้ แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี และไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้ง การมีข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ปกครองดูแลลูกน้อยได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด