อาบน้ำนอกบ้านแบบคนญี่ปุ่น

ภายใต้ดินแดนแห่งภูเขาไฟของญี่ปุ่นมีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ทำให้น้ำแร่ร้อนจากใต้ดินแต่ละที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว รักษาร่างกายสารพัด อย่างเช่นน้ำแร่มิซาสะ ที่มีแร่เรดอน หรือธาตุกัมมันตรังสีที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ บรรเทาอาการเจ็บป่วย 
ใครไปที่นี่จะเจอผู้สูงอายุเยอะสักหน่อย เพราะเขาไปบำบัดรักษาร่างกายกันตามคุณสมบัติการรักษาอาการทางประสาท รูมาตอย โรคเกาท์ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน บางที่มีไอออน คุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย  แต่จากลองแช่ออนเซ็นที่ทาคายาม่า และชิราคาวาโกมาหลายครั้ง สัมผัสได้ว่าผิวลื่น เด้ง ทีเดียวอุณหภูมิปกติของออนเซ็นอยู่ที่ประมาณ 38-40 องศา แต่น้ำแร่จากธรรมชาติบางที่อุณหภูมิสูงถึง 92 องศาต้องผสมน้ำ ไม่อย่างนั้นสุกกันหมดทั้งบ่อออนเซ็นป็นแน่ แต่จะมาหลอกบอกว่าที่นี่บริการน้ำแร่จากธรรมชาติสรรพคุณล้นเหลือ แต่แท้ที่จริงใต้บ่อก่อไฟต้มน้ำร้อนกันอยู่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ 
เพราะรัฐบาลท้องถิ่นควบคุมตั้งแต่การขุดเจาะน้ำแร่ขึ้นมาจากใต้ดิน มีการเก็บภาษี ตรวจสอบคุณสมบัติแร่ธาตุตรวจทั้งตอนเจาะ และสุ่มตรวจหลังเปิดบริการ แต่ละที่ยังต้องขึ้นป้ายบอกสรรพคุณแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำกันด้วย
ได้เวลาสลัดผ้าอาบน้ำแร่ แช่น้ำรวม เอ้ย! แช่ออนเซ็นกันแล้ว ส่วนมากแล้วในห้องพักของโรงแรมที่มีบริการออนเซ็นจะมีชุดยูกาตะให้เปลี่ยนมาแช่ออนเซ็น วิธีใส่ก็เหมือนใส่เสื้อคลุม แต่!!  ต้องเอาเสื้อด้านขวามาทับด้านซ้ายเท่านั้น เพราะซ้ายทับขวาไว้ใช้ในพิธีส่งศพ 
ส่วนโอบิ หรือสายรัดเอวให้พันรอบเอว 2 รอบ มัดโบว์ หรือจะมันเป็นปมเอาไว้ด้านหลัง ผู้หญิงจะผูกไว้เหนือสะดือเล็กน้อย ผู้ชายผูกไว้ใต้สะดือ เรียบร้อยแล้วอย่าลืมหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ข้างกันมาด้วย 2 ผืน ผืนเล็กกับผืนใหญ่ แล้วมุ่งหน้าสู่ออนเซนกันเลย
อุ๊ตะ! มาถึงหน้าห้องออนเซน จะเข้าห้องไหนดีหละไม่มีสัญลักษณ์อะไรบอกเลยว่าไหนห้องผู้หญิงหรือผู้ชาย ดูง่ายๆ จากสีของผ้าม่านหน้าห้องเลยจ้า ห้องผู้หญิงจะใช้โทนสีหวาน เช่น สีแดง ชมพู โอโรส ห้องผู้ชายจะใช้ผ้าม่านสีโทนเข้มๆ หนักๆ สีน้ำเงิน สีดำ สีน้ำตาล 

ผ่านผ้าม่านเข้าไปถอดรองเท้าพร้อมหยิบตัวหนีบหมายเลขอันนึงหนีบไว้กับรองเท้า อันนึงเก็บไว้จะได้หยิบรองเท้ากลับถูกคู่ ในห้องแรกจะมีกระจกไดร์เป่าผม โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิวหน้าผิวกาย 

ห้องผู้ชายจะเพิ่มมีดโกนหนวด ครีมโกนหนวด จากบรรดาแบรนด์ดังต่างๆ ให้ได้ลองใช้ เผื่อติดใจจะได้ไปซื้อใช้ ต่อไปก็จัดการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด แล้วทำใจให้สบายถอดเสื้อผ้าออกให้หมดใส่ช่องที่มีตะกร้าเหมือนล๊อกเกอร์ 

ไม่ต้องคิดมากไม่มีใครกล้ามองใครกันหรอก ตอนไปทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าถอดเกรงใจเซลลูไลท์ และไขมันส่วนเกิน ส่วนสาวญี่ปุ่นเหรอมาถึงก็ถอด ถอด เหมือนเป็นเรื่องปกติ จะอ้วน จะย้วย จะยานพวกนางไม่ได้แคร์  สิ่งที่จะเอาเข้าในห้องอาบน้ำมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเท่านั้น 
ย้ำ! ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเท่านั้น จะปิดบนปิดล่าง ก็เลือกเอา หรือจะปิดตาก็ดีจะได้ไม่เห็นใคร ส่วนผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เก็บไว้เช็ดตัวหลังแช่ออนเซ็น แล้วเดินผ่านเข้าประตูชั้นต่อไปจะเป็นโซนอาบน้ำชำระล้างร่างกายกันก่อน 
เช่นเดิมมีสบู่ ยาสระผมครีมนวดผมไว้ให้พร้อม ใช้ได้เลยเต็มที่ บางที่มีหินขัดเท้าให้อีกด้วย อาบน้ำขัดถูทุกซอกมุมให้สะอาด เสร็จแล้วอย่าลืมคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กไปแช่น้ำแร่กัน บ่อออนเซ็นจะมีทั้งในห้องเดียวกับที่อาบน้ำ และนอกสถานที่แต่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่แค่เปิดผนังด้านนึง หรือเปิดหลังคารับลมเย็นๆ กับน้ำอุ่นๆ สบายใจได้ไม่มีใครแอบดู 

เวลาจะลงแช่อย่าใจร้อนลงไปตู้มเดียวเชียวนะปรับตัวไม่ทันกรี๊ดกันสนั่นออนเซ็นเป็นแน่ อย่าลืมว่าน้ำมันร้อนมาก ค่อยๆเอาขาจุ่มลงไปก่อนพอเริ่มชินกับอุณหภูมิค่อยๆ ขยับตัวลงไปทีละนิด อีกอย่างอย่าเคลื่อนไหวเร็วจะร้อนวูบขึ้นมาเลย 
ส่วนผ้าผืนเล็กที่เอามาด้วยจะจุ่มน้ำแล้ววางบันหัวเหมือนในซีรีย์ หรือสาวๆที่ผมยาวจะโพกผมไว้ก็ได้ ถ้าไม่รู้จะทำอะไรวางไว้ที่ขอบบ่อ จำไว้ว่าอย่านานเกินไป สัก15 นาทีกำลังดี ใครอยากแช่นานกว่านั้นก็ได้แต่อย่าฝืนร่างกาย พอเริ่มรู้สึกแน่นๆ วิ้งๆก็ควรจะขึ้นมาล้างตัวด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน ถ้าร่างกายยังไหวจะแช่ต่ออีกสักรอบสองรอบก็ยังได้ 
ครั้งนี้เลือกแช่บ่อออนเซ็น Outdoor นุ่งลมห่มฟ้าออกไปแช่น้ำแร่ร้อนๆ ท่านกลางอากาศหนาว 8องศา มองออกไปเห็นยอดไม้ ท้องฟ้ากลางป่าของเมืองทาคายาม่า มีดาวระยิบ ส่วนอีกคืนที่ชิราคาวาโก อะไรจะสุขใจขนาดนี้ แต่อย่าเพลินจนเป็นลมคาออนเซนเป็นพอ เพราะตอนนี้เราอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า คนเข้ามาช่วยอาจจะตกใจเป็นลมตามไปอีกคน

ส่วนฝั่งผู้ชายอาจจะแจ๊คพอตแตกเจอคุณป้าแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด เก็บขยะ จัดความเรียบร้อยพอดี ไกด์ประจำทริปบอกว่าไม่ต้องตกใจ ป้าเขาเห็นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้วไม่รู้ 
ขึ้นมาจากแช่น้ำแร่แล้ว จะได้สัมผัสกับผิวลื่นๆ มโนไปเลยว่าสวยขึ้นแน่นอน 555 แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ เพราะเสียเหงื่อไปมาก ยิ่งจะทำให้สดชื่น คลายความเหนื่อยล้า หลับสบายฝันดีไปทั้งคืน 
สมัยก่อนอาจจะมีข้อห้ามคนที่มีรอยสักลงแช่ออนเซ็น เพราะเป็นที่รู้กันว่ายากูซ่าคือคนที่มีรอยสัก จากคนที่จะมาแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายกลายเป็นเครียดกว่าเดิม แต่เดี๋ยวนี้ผ่อนกลายกฎข้อนี้ลงไปแล้ว คนที่มีรอยสักเล็กๆน้อยๆ แช่ออนเซนได้อย่างสบายใจ ไม่ทำร้ายจิตใจคนรอบข้าง 
ส่วนคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงก็ต้องระวังอย่างมาก เพราะแช่ออนเซนยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ส่วนคนที่เป็นโรคผิวหนังที่ไม่เป็นที่รังเกียจ ก็แช่ออนเซนเพื่อการรักษาได้ดีทีเดียว

เอาเป็นว่าไปญี่ปุ่นแล้วอย่าได้พลาดลองสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ด้วยการอาบน้ำแร่แช่ออนเซ็น ไม่มีอะไรเสียหาย ถึงแม้จะเขินๆ อายๆ หน่อย เอาผ้าปิดตาไว้ก็ไม่มีใครเห็นแล้ว สักครั้งในชีวิตแล้วจะไม่เสียใจ