พปชร.ประชุมใหญ่ไร้วาระปรับ กก.บห. ลั่นเป็นพรรค “อนุรักษ์นิยมทันสมัย”

26 เมษายน 2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อพิจารณาผลการดำเนินงานของพรรค และงบการเงินของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงการแก้ไขข้อบังคับการประชุมพรรคฯ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกรรมการบริการพรรคฯ แต่อย่างใด

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวเปิดการประชุมว่า ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และ สส.ของพรรคฯ ได้ขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามอุดมการณ์ และเจตจำนงของพรรคทุกประการ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้มีสวัสดิการที่ดี มีรายได้ดี มีความสุขทุกครอบครัว เร่งพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พรรคฯ เป็นที่ศรัทธาของประชาชน พร้อมให้พรรคฯ ได้เตรียมปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกเพศ ทุกวัย และทุกกลุ่มอาชีพให้มากยิ่งขึ้น

“บิ๊กป้อม” ลั่น พปชร.เป็นอนุรักษ์นิยมทันสมัย

พล.อ. ประวิตร ยังประกาศด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ และบริหารเศรษฐกิจที่ทันสมัย เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ สโลแกนใหม่ คือ ''ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส'' 

สำหรับการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ (26 เม.ย.) มี สส. รัฐมนตรี กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง 

พล.ต.อ.พัชราวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เป็นต้น ซึ่งการประชุมในวันนี้ พรรคฯ ได้ใช้เวลาการประชุมไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะปิดการประชุม 

ไพบูลย์ ยืนยัน พปชร.ไม่แตก

ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคฯ ได้ออกมาย้ำภายหลังการประชุมว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความเป็นเอกภาพ และความสามัคคีภายในพรรคหลังมีกระแสข่าวเรื่องกลุ่มก๊วน จนอาจทำให้พรรคแตก และยืนยันว่า ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่พรรคเข้มแข็งที่สุด เพราะพล.อ.ประวิตร เป็นศูนย์รวมจิตใจของ สส.ภายในพรรค และเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมานั้น ไม่เป็นความจริง และไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะพรรคฯ ยังมีความมั่นคง เป็นปึกแผ่น และมั่นใจว่า พรรคจะเติบโต ไปเป็นพรรคแนวหน้าได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ภายหลังการประชุมพรรค พล.อ.ประวิตร ได้เรียกกรรมการบริหารพรรค และสส.กลับไปประชุมต่อ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด