ฉุนกลุ่ม NGO บิดเบือนข้อเท็จจริง แพร่ข้อมูลทหารอุ้ม "ปธ.ตาดีกา" แท้จริงแค่นัดสาวจากเฟซบุ๊กเที่ยว

วันที่ 20 พ.ค.60 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีนายดาโห๊ะ มะถาวร ครูโรงเรียนตาดีกา/ประธานชมรมตาดีกา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้หายตัวไปจากบ้าน เลขที่ 24/1 ม.3 ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 20.30 น. ได้โทรศัพท์ติดต่อกับภรรยาและญาติว่า ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปขังไว้ในสถานที่คล้ายกับค่ายทหาร และต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นายดาโห๊ะ ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยปลอดภัย ทั้งนี้ภายหลังจากนายดาโห๊ะ ได้หายตัวไป ได้มีการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆในลักษณะให้สังคมเชื่อว่า ถูกเจ้าหน้าที่บังคับให้สูญหาย สร้างความหวาดระแวงและทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
"จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ใช้ความพยายามในการให้ความช่วยเหลือพร้อมกับได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏ จึงขอชี้แจงให้ทราบ คือผลจากการซักถาม นายดาโห๊ะ ได้ให้การสารภาพว่า ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับตัวดังที่ได้กล่าวอ้าง และปรากฏเป็นข่าวแต่งอย่างใด ทั้งนี้ในวันดังกล่าวได้นัดให้ผู้หญิงที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊คมาประมาณ 5 เดือน มารับที่บริเวณหมู่บ้านและเดินทางไปพักที่บ้านฝ่ายหญิงที่ จ.สตูล และในระหว่างนั้นได้ติดต่อกับภรรยาและญาติมาอย่างต่อเนื่องว่า ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปขังในสถานที่เหมือนค่ายทหาร แต่ปลอดภัยดี และต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ได้เดินทางกลับบ้าน โดยให้น้องชายไปรับที่สถานีรถโดยสาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา" พันเอกปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ภายหลัง นายดาโห๊ะ ได้หายตัวไปได้มีองค์กรแนวร่วมในพื้นที่ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โดยนางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ กลุ่มด้วยใจ โดยนางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่รัฐและใช้ความรู้สึกในการสื่อสาร เพื่อให้สังคมเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พยายามบังคับให้สูญหาย ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวงและไม่เชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ ซึ่งนายดาโห๊ะ และองค์กรต่างๆที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่ทำให้ภาครัฐได้รับความเสียหาย และเป็นความผิดที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเชิญมาเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หรืออาจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้แสดงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสียหายในความเชื่อมั่นและเกิดความหวาดระแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
"ขอให้พี่น้องประชาชนบริโภคข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวัง และให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะดำเนินทุกวิถีทาง เพื่อให้พื้นที่เกิดความสงบสุขด้วยการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยความเป็นธรรมโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยหากมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องสามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลย 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว