ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.สมใจ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมว่า เมื่อช่วงเดือนเม.ย. น.ส.สมใจพบข้อมูลการรับสมัครทางเฟสบุ๊คชื่อโกลเด้น เมืองหล่ม ประกาศรับสมัครงานชักชวนหญิงไทยไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยในประเทศบาห์เรน โดยมีการรับประกันรายได้ 3 แสนบาทต่อเดือน โดยจะคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสมัครงานและค่าเอกสารเป็นเงิน 160,000 บาท
น.ส.สมใจจึงได้ติดต่อไปทางเจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าวทราบชื่อต่อมาน.ส.วิชุดาให้ดำเนินการติดต่อกับน.ส.ลีลา (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) หรือที่รู้จักกันในวงการชื่อ บอส ต่อมาวันที่ 6 เม.ย. ผู้เสียหายได้เดินทางไปที่ประเทศบาห์เรนแต่เมื่อไปถึงกลับถูกพรรคพวกของน.ส.ลีลา เป็นหญิงไทย 2 คนและชายชาวบาห์เรนอีก 3 คน ยึดหนังสือเดินทางและพาไปบังคับค้าประเวณีที่ร้านอาหารดังกล่าว แต่น.ส.สมใจ ไม่ยินยอมจึงได้ติดต่อกลับไปที่น.ส.วิชุดา แต่ถูกปฎิเสธความรับผิดชอบ
จากนั้นพรรคพวกของน.ส.ลีลา จึงได้เสนอข้อต่อรองว่า หากต้องการอิสรภาพให้นำเงิน 50,000 บาท มาไถ่ถอนอิสรภาพ จึงถูกบังคับให้ค้าประเวณี 4 คืนติด จนวันที่ 13 เม.ย.จึงเดินทางกลับมาประเทศไทย แต่ไม่กล้ามาร้องทุกข์เพราะกลัวอันตราย จึงมาร้องเรียนกับชมรมดังกล่าว
จากการสอบสวนน.ส.วิชุดา ให้การอ้างว่า ตนเป็นเพียงผู้ดูแลให้หญิงไทยมาพักเท่านั้น ซึ่งคนที่มาพักกับตนรู้อยู่แล้วว่าจะไปทำงานประเภทไหน ตนเพิ่งทำงานดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยค้าประเวณีในต่างประเทศเช่น สิงคโปร์เป็นต้น โดยได้รับค่านายหน้าคิดเป็นหัวละ 5,000-10,000 บาท และตนส่งหญิงไทยไปทำงานที่ประเทศบาห์เรนเท่านั้น ทั้งยังเคยส่งหญิงไทยไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้แต่ถูกส่งกลับเนื่องจากไม่ผ่านด่าน ตม.ของเกาหลี
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า ทางรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการค้ามนุษย์ ให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะถือว่าเป็นการบะเมิดศักศรีดิ์ความเป็นมนุษย์และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงกลวิธีหลอกลวงของขบวนการค้ามนุษย์ อย่าหลงเชื่อว่าสามารถจะพาไปทำงานต่างประเทศได้ เพราะสุดท้ายก็จะถูกบังคับ ขู่เข็ญและยึดหนังสือเดินทางให้บังคับค้าประเวณี หากพบเบาะแสสามารถแจ้งมาที่โทรศัพท์สายด่วน 1191 ตลอด 24 ชม.