svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

EARTH แจ้งเตือนประชาชนรอบรัศมีโรงงานระยอง หลังวัดคุณภาพอากาศพบอันตราย

25 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) ตรวจวัดคุณภาพอากาศหลังเหตุไฟไหม้โรงงานกักเก็บกากสารพิษ จ.ระยอง พบยังมีไฟคุกรุ่น ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงและหมอกควัน หวั่นก่อมะเร็งและอันตรายต่อสุขภาพ

ล่าสุด มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) โพสต์ข้อความและภาพกรณีไฟไหม้โรงงาน พร้อมระบุว่า เข้าสู่เช้าวันที่ 4 ของเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานกักเก็บกากสารพิษของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด บ้านหนองพะวา ต. บางบุตร อ. บ้านค่าย จ. ระยอง

บริเวณโกดัง 5 ซึ่งเป็นอาคารใหญ่ที่สุดและมีกองสารเคมีหลายหลากชนิดกองทับสุมหนาแน่นยากแยกแยะ ยังคงปลดปล่อยควันลอยออกมาตลอดเวลา

EARTH แจ้งเตือนประชาชนรอบรัศมีโรงงานระยอง หลังวัดคุณภาพอากาศพบอันตราย

ชาวบ้านในพื้นที่ส่งภาพถ่ายและคลิปให้ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศ ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง เนื่องจากพบว่าสภาพอากาศทั่วบริเวณหมู่ 1, 4 และ 8 ของบ้านหนองพะวาเต็มไปด้วยควันขาวปกคลุม ลอยต่ำ กระทั่งช่วงประมาณ 07.00 น. เป็นต้นมาจึงค่อยบรรเทาลง เนื่องจากควันยกระดับลอยสูงขึ้น และมีลมพัดแรงเป็นระลอก ทำให้ควันกระจายไปทางทิศเหนือ ทางด้านพื้นที่หมู่ 8 เป็นหลัก

เมื่อลมพัดมาแต่ละครั้ง จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหม็นรุนแรงลักษณะเป็นก้อนๆ ขนาดใหญ่

ทางด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ซึ่งพัก ณ รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 3 กิโลเมตร ตื่นขึ้นมาพบกับสภาพการณ์เดียวกัน นั่นคือ รอบตัวเหมือนมีหมอกปกคลุม แต่ไม่โรแมนติก เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นรุนแรงในบรรยากาศ

เมื่อวัดคุณภาพอากาศ พบว่าระดับกลิ่นขึ้นไปสูงอยูในระดับมากว่า 5,000 ถึงเกือบ 10,000 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm 1-10) อยู่ที่ประมาณ 100-150 ug/m3 และค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม (VOCs) อยู่ที่กว่า 100 เกือบ 200 ppb

ดังนั้น ระดับห่าง 3 กิโลเมตรก็ใช่จะปลอดภัย

EARTH แจ้งเตือนประชาชนรอบรัศมีโรงงานระยอง หลังวัดคุณภาพอากาศพบอันตราย

เมื่อกลับเข้าสู่พื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm 1-10) สูงถึงระดับ 1,000 ug/m3และพบว่า โกดัง 5 ยังปล่อยควันพิษออกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยก่อนหน้านี้ทาง มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) ได้โพสต์เตือนภัย!! อากาศมีสารก่อมะเร็ง โดยทีมเจ้าหน้าที่เทคนิคมูลนิธิบูรณะนิเวศ ลงพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 23 เมษายน 2567 จนถึงช่วงรุ่งเช้าวันที่ 24 เมษายน 2567 พบอากาศหนองพะวา อาบ VOCs และรอบพื้นที่ไฟไหม้มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก สูงในพื้นที่รอบบริเวณไฟไหม้ รวมทั้งพบ VOCs หรือกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยปะปนในอากาศมีค่าสูงเกิน 200 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) ทุกจุดตรวจ ไม่เว้นแม้แต่ที่วัดหนองพะวา ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยการเหตุการณ์ครั้งนี้

ดังนั้น จึงมีความหวั่นเกรงว่าสภาพอากาศดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงงานที่เกิดเหตุ เนื่องจากคุณภาพอากาศตามที่ตรวจวัดได้สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังในระยะยาว

สำหรับอาการเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ อาการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ เช่น ระคายจมูก แสบคอ คอแห้ง ไอ คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ และอาจมีอาการเวียนศีรษะ ผื่นคัน ภูมิแพ้ ส่วนผลกระทบระยะยาวนั้น เนื่องจาก VOCs มีสารเคมีบางชนิดที่เป็น “สารก่อมะเร็ง”

มูลนิธิบูรณะนิเวศ จึงขอเตือนและมีข้อแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรจากโรงงาน อพยพออกจากพื้นที่จนกว่ากองเพลิงจะมอดดับสนิท ทั้งนี้ สำหรับเจ้าหน้าที่และผู้มีจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม พึงตระหนักว่า หน้ากากอนามัยป้องกันโควิดไม่สามารถป้องกันมลพิษได้

 

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH), เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค มูลนิธิบูรณะนิเวศ, กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์หนองพะวา

logoline