หนุ่มอาสาตำรวจหัวหมาก ไล่ตามเด็กแว้น ชนรถขนน้ำ ดับอนาถ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ทำการปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว ที่ช่องทางขวาสุดพบศพ นายซาอุดี ดงตายา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/8 หมู่ที่ 5 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา นอนเสียชีวิต มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และที่ลำคอหักผิดรูป โดยผู้ตายนอนคุดคู้ค่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ สีดำ-เทา ถังน้ำมันติดสติ๊กเกอร์ตราโล่ แต่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับเยินทั้งคัน พลิกตะแคงอยู่ใต้รถบรรทุกน้ำ ของสำนักงานเขตวังทองหลาง ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 78-3201 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยถูกชนที่กันชนด้านหน้าจนยุบตัว มีนายศักดา กองเป็ง อายุ 45 ปี พนักงานขับรถน้ำสำนักงานเขตวังทองหลางยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ายังมีนายณัฐพงษ์ ปาตู อายุ 28 ปี เป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่ง รพ.รามคำแหง ไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะเร่งเคลื่อนย้ายศพ และรถคู่กรณีออกจากพื้นผิวการจราจร พร้อมทั้งเปิดใช้งานตามปกติ
จากการสอบถาม นายสมชาย ทัตตานนท์ อายุ 38 ปี หัวหน้าชุดเหยี่ยวดำ ซึ่งเป็นอาสาตำรวจบ้าน สน.หัวหมาก เล่าว่า ปกติผู้ตายทำอาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ประตู 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่ด้วยจิตอาสาจึงเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกเหยี่ยวดำ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ได้ 3 ปี โดยก่อนเกิดเหตุ ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ป่วนเมือง หรือเด็กแว้น ขับขี่แข่งขันบนท้องถนนสาธารณะ บริเวณถนนศรีนครินท์ ในพื้นที่ สน.หัวหมาก จึงแบ่งกำลังเป็น 4 ชุดเพื่อติดตามจับกุม ซึ่งผู้ตายพร้อมผู้บาดเจ็บได้ขับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ โดยใช้เส้นทางประดิษฐ์มนูญธรรม โดยขับย้อนศรมายังจุดเกิดเหตุ และคาดว่าตั้งใจจะมาดักจับกุมกลุ่มเด็กแว้นซิ่งป่วนเมือง แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน
นายสมชาย บอกด้วยว่า มีเค้าลางเมื่อวานนี้(8 ต.ค.) ผู้ตายเพิ่งจัดงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 26 ปี รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ที่ผู้ตายขับขี่ ป้ายทะเบียนตาโล่ 51837 ที่ติดอยู่ได้หลุดออก จึงไม่ได้ติดแผ่นป้ายดังกล่าว
สอบสวน นายศักดา ผู้ขับรถบรรทุกน้ำ กทม. ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยไปรับน้ำจากบริเวณบึงพระราม 9 เพื่อจะไปรดน้ำต้นไม้ละแวกดังกล่าว แต่ระหว่างกลับรถที่จุดเกิดเหตุตนกำลังมองรถที่วิ่งมาตามทางปกติผ่านไป 3 คัน จากนั้นจึงเลี้ยวรถ จู่ๆได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรมาด้วยความเร็ว แล้วพุ่งเข้าชนรถตนอย่างจัง กระทั่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาใครแต่อย่างใด ซึ่งต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง ก่อนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป