30 พฤษภาคม 2566 ที่ จ.อุทัยธานี เป็นเรื่องราวดี ๆ ของคำว่า "บวร" ความสัมพันธ์ระหว่าง "บ้าน-วัด-โรงเรียน" เมื่อวัดจันทาราม หรือวัดท่าซุง หรือวัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี ที่ได้มีการจัดตั้งร้านกาแฟ เพื่อเป็นรายได้การกุศล สำหรับนักเรียน โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา โรงเรียนประจำของวัด
พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง เผยว่า ร้านกาแฟท่าซุงคอฟฟี่ เป็นแนวคิดของพระราชภาวนาโกศล เจ้าอาวาสองค์ก่อน มีญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์ของวัด ที่เลื่อมใสศรัทธา ต่อองค์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ช่วยบริจาคเงิน และอุปกรณ์การชงกาแฟ เพื่อเสริมสร้างรายได้ในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดตามเทศกาลต่าง ๆ รวมทั้งหลังเลิกเรียน
ร้านกาแฟท่าซุงคอฟฟี่ ตั้งอยู่ด้านข้างของวิหารหลวง 5 พระองค์ และทางลงไปยังวังมัจฉา แม่น้ำสะแกกรัง เป็นมุมพักผ่อนจุดสุดท้าย หลังจากพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวตระเวนเที่ยวชม ไหว้พระตามศาสนสถาน ภายในวัด วิหารแก้ว 100 เมตร ปราสาททองคำ สมเด็จพระองค์ปฐม เป็นต้น
โดยจะมี เด็กนักเรียนจะมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำงานที่ร้านกาแฟร้านนี้ เพื่อเป็นรายได้เสริมเพิ่มเติม และเป็นการฝึกความอดทน ฝึกวิชาชีพ ที่จะนำไปใช้ในอนาตค ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนเป็นลูกค้า ยังได้กุศลอีกด้วย
ร้านกาแฟท่าซุงคอฟฟี่ มีเมนูกาแฟสดและเครื่องดื่ม ทั้งร้อนและเย็นมากมายไว้คอยบริการ ไม่แพ้ร้านกาแฟดังที่มีอยู่ในเมือง ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นฝีมือผลิตของเด็กนักเรียน และคณะครูของโรงเรียน เช่น แชมพู ยาดม ยาหม่อง ไว้จำหน่ายเพื่อการกุศลภายในร้านกาแฟด้วย
พระครูใบฎีกาไพบูลย์ สุธมมฐิติญาโณ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา โรงเรียนประจำของวัด เด็กนักเรียนจะได้กลับบ้านปีละ 1–2 ครั้งเท่านั้น ช่วงวันเสาร์–อาทิตย์ เจ้าอาวาสจะให้มีกิจกรรมเสริม เช่น ดนตรีไทย วงโยธวาทิต งานอาชีพ
โดยร้านกาแฟ ก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ ตั้งแต่การซื้อสินค้า การทำสต๊อก การทำบัญชี เพื่อให้รู้ถึงต้นทุน กำไร นอกจากกาแฟและเมนูเครื่องดื่มต่างๆ แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่นักเรียน ศิษย์เก่า คณะครู ช่วยกันผลิต เช่น แชมพู ยาดม ยาหม่อง เป็นต้น
และปกติแล้วนักเรียนของโรงเรียนนี้ จะได้ทุนการศึกษาทุกคน แม้กระทั่งเสื้อผ้า อุปกรณ์เรียนก็จะมีผู้บริจาคให้ทั้งหมด จะเสียค่าใช้จ่ายเทอมละ 5 พันบาทเท่านั้น โดยเด็กที่จะเรียนที่นี่ต้องสอบเข้า และรับปีละประมาณ 120 คนเท่านั้น และเด็กที่เรียนที่นี้เมื่อจบแล้ว จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ และจะได้ทุนเรียนต่อไปจนจบปริญญาตรี
หากมีความสามารถจะเรียนถึงปริญญาโท ปริญญาเอก ก็สามารถขอทุนเรียนต่อได้ทุกคนด้วย แต่ก็มีสัญญาใจว่า หากนักเรียนได้ทุนเรียนจบระดับสูงสุด มีงานทำเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์ไม่เดือดร้อน มีเงินมีทองเก็บ ขอให้ส่งเด็กเรียนต่อถึงระดับปริญญาตรีอย่างน้อย 1 คน เพื่อตอบแทนที่ตัวเองได้รับสิ่งนี้มา
จากการพูดคุยกับนักเรียน ที่มาทำงานที่นี่ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางวัดสนับสนุนโดยการให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีรายได้ ทั้งยังได้เรียนรู้การสร้างอาชีพโดยการทำกาแฟ และการทำงานก่อนจะจบไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เป็นการออมเงินไปในตัว ลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง
ในวันหยุดก็จะกระจาย ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวของวัด เพราะทางวัดทำของที่ระลึก ไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ไว้ซื้อไปฝากญาติ ๆ โดยทางคณะสงฆ์ คณะครู จะมาคอยดูแลให้นักเรียน ผลัดเปลี่ยนเวรกันมาทำงาน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ อีกทางหนี่งให้กับนักเรียนทุกคน