
18 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัวที่ออกจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ชาวบ้านจึงนำเมล็ดบัว มาแปรรูป ทำขนมบัวทอด ซึ่งเป็นขนมหากินได้ยาก จากรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่ทำกินในครัวเรือน ส่งต่อรุ่นลูก นำมาแปรรูป เป็นเจ้าแรก และ เจ้าเดียวของจังหวัดพิจิตร จำหน่าย สร้างรายได้ ในช่วงที่ผลผลิตของบัวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในบึงสีไฟ มีจำนวนมาก
โดยนางน้ำฝน ชาวบ้านตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า เมื่อก่อนบัวที่ออกมาจำนวนมาก พ่อแม่ จึงนำเอาเมล็ดบัว มาทำขนมให้กินภายในบ้าน เห็นว่ามีความอร่อย และ หากินได้ยาก จึงลองทำมาวางจำหน่าย บริเวณถนนบายพาส ตำบลคลองคะเชนทร์-พิจิตร ช่วงตรงข้ามศาลจังหวัดพิจิตร เป็นเจ้าแรก และ เจ้าเดียวของจังหวัด ให้ประชาชนที่ผ่านไปผ่านมา ได้เลือกซื้อไปรับประทาน
ซึ่งการทำขนมบัวทอด ส่วนผสม เหมือนกับ การทำกล้วยทอด ที่มีแป้ง น้ำตาลทราย เกลือ มะพร้าว โดยเริ่มจากทำการผสมแป้ง น้ำเปล่า น้ำตาลทราย เกลือ มะพร้าว ผสมลงไปให้เข้ากัน จากนั้น นำเมล็ดบัว ที่ปลอกเปลือกแล้ว มาผสมชุบแป้ง ทอดในน้ำมันที่ร้อน ใช้เวลา ประมาณ 10 นาที จนกลายเป็นสีเหลืองกรอบ และ วางจำหน่าย ในราคาถุงละ 35 บาท
"รสชาติ ของขนมบัวทอด จะคล้ายกับกล้วยทอด แต่จะมีความหวาน มัน ของเมล็ดบัว โดยในแต่ละปี ขนมบัวทอด จะมี จำหน่าย ปี ละ 2-3 เดือน ในช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือน พฤษภาคม เนื่องจากบัวจะออกฝักจำนวนมาก" นางน้ำฝน กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถ เลือกซื้อ และ เลือกชิมได้ ที่บริเวณข้างถนนบายพาส ตำบลคลองคะเชนทร์ – พิจิตร ช่วงตรงข้ามศาลจังหวัดพิจิตร ซึ่งทางร้านจะทำจำหน่ายแบบวันต่อวัน เพื่อความสดและความอร่อย ซึ่งผู้เดินทางสามารถลองซื้อไปรับประทาน เนื่องจากเป็นขนมหากินได้ยาก ตามช่วงฤดูกาล