หมอธีระวัฒน์ เผยเงื่อนไขใช้กัญชาทางการแพทย์ ทำอย่างไรไม่อันตรายถึงชีวิต! เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
หมอธีระวัฒน์ เผยข้อแนะนำการใช้กัญชาทางการแพทย์ มีปริมาณการใช้และเงื่อนไขอย่างไร จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ตรวจสอบได้ที่นี่ 16 มิถุนายน 2565 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอธีระวัฒน์” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” เปิดแนวทางในการใช้กัญชาทางการแพทย์ ต้องทำอย่างไรจึงเหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีรายละเอียดดังนี้
การใช้กัญชาในทางการแพทย์ ต้องเป็นในลักษณะเจือจางมาก และการออกฤทธิ์ผ่านการกระตุ้นระบบกัญชาในร่างกายอีกต่อ ไม่ใช่ ใช้ในปริมาณสูงโดยคิดว่ายิ่งใช้มากยิ่งได้ผลมากยิ่งดี
การได้รับกัญชาที่มีสาร THC สูง ไม่ว่าจะด้วยการเสพเฮฮา หรือนำมา บริโภคในเครื่องดื่มอาหารขนมมีผลต่อระบบความดันโลหิต และมีความเสี่ยง ในคนที่มีเส้นเลือดตีบ เมื่อความดันตกเลือดจะไปเลี้ยงไม่พอ หรือ ถ้ามีหัวใจเต้นผิดปกติ อยู่แล้ว อาจผิดปกติมากขึ้น
ผลต่อเรื่องความดันโลหิต อาจจะมีหรือไม่มีอาการเมานำมาก่อนก็ได้
พร้อมกันนี้ หมอธีระวัฒน์ ได้แนบภาพประกอบ 2 ภาพ มีเนื้อหาดังนี้..
ภาพแรก หัวข้อ ในเรื่องของเบาหวาน กัญชาทำให้ระดับน้ำตาลลดได้ โดยไม่ต้องเมา
ตำราส่วนมากจะพูดถึงกัญชาที่ทำให้เมาจะทำให้เบาหวานควบคุมยากขึ้นและกันชง ที่ไม่เมาทำให้น้ำตาลลดลง
การใช้ปริมาณน้อยที่สุดแม้ว่าจะเป็นตัวออกฤทธิ์แบบที่ทำให้เมาได้ก็ตาม กลับทำให้ระดับน้ำตาลลดลงได้
และนี่คือกลไกของการออกฤทธิ์ที่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวจับตัวรับกัญชาอย่างเดียว โดยที่ทราบกันมาประมาณ 28 ปีที่แล้ว แต่เป็นเรื่องของการที่กัญชาได้จากภายน้อกไปกระตุ้นการสร้างกัญชา
ธรรมชาติในร่างกาย เฉพาะกิจ และทำงานตามสั่งในช่วงระยะเวลาที่ต้องการในการปรับความผิดปกติในร่างกาย (On demand. Time specific. System selection)
กัญชาในร่างกายเหล่านี้ แม้ว่าจะสามารถจับกับตัวรับได้แทบทุกตัวเหมือนกันหมดแต่จะเลือกที่จะทำงานในส่วนที่จะต้องทำ เท่านั้น (Functional selectivity ) ไม่ว่าจะใช้ inverse agonism. Receptorbias. Heterodimerization ต่างๆนาๆ ก็ตาม
ภาพที่สอง มีรายละเอียดดังนี้
"เมา" กัญชา แบบไม่มีเฮฮานำ-ตามด้วย CVs / แบบสนุก-ตามด้วยหดหู่ ไม่มี Cvs
อาการเมาที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีอาการสนุกเฮฮานำมาก่อน แต่เป็นเรื่องของความดันตกเวียนหัวคลื่นไส้ อาเจียน และการเห็นภาพขนาดแปรเปลี่ยนไป หรือจะเรียกว่าเป็น Alice in wonderland และมีอาการทรงตัวไม่ปกติ
โดยเป็น misperception ของการมองเห็น ต้องไม่สรุปว่าลักษณะดังกล่าวเห็นภาพหลอนซึ่งเกิดจากอาการทางจิต
ในบางรายที่มีอาการสนุกเฮฮา ในระยะต่อมา ถึงแม้ไม่มีความผิดปกติ ทางด้านระบบความดันหรือหัวใจหรือความผิดปกติในด้านการทรงตัว การมองเห็นภาพ กลับตามด้วยภาวะหดหู่ซึมเศร้าอย่างรุนแรงได้
ที่มา : เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha”