svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ และ ความงาม

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด

10 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แพทย์เปิดงานวิจัย มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด พบการกลายพันธุ์โควิด โอมิครอน BA.4 และ BA.5 หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มากกว่าเดิม รวมทั้งภูมิที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนและภูมิที่เกิดหลังจากติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้า

10 มิถุนายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” อัพเดตสถานการณ์โควิด19 โอมิครอน (Omicron) สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 โดยยกงานวิจัยของทีมงานจากมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะของไวรัสโรคโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron BA.4 และ BA.5 ในวารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ Cell เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

 

สาระสำคัญ คือ การชี้ให้เห็นว่า BA.4 และ BA.5 นั้นมีการกลายพันธุ์ที่เปลือกนอกหลายตำแหน่งที่ต่างจากสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมด และยังต่างจาก BA.1 และ BA.2 ที่เป็น Omicron พี่ๆ ที่ออกมาระบาดก่อนอีกด้วย

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด

 

“ การกลายพันธุ์ส่งผลให้ BA.4 และ BA.5 หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มากกว่าเดิม ทั้งภูมิที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน และภูมิที่เกิดหลังจากติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้า นอกจากนี้ยังดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้รักษามากขึ้นด้วย ”

 

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด
 

หมอธีระ ระบุอีกว่า สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบันมีความเสี่ยงมากขึ้นอย่างมาก การใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ควรทำ 

 

“ โควิด...ไม่จบแค่ติดชิลๆ แล้วหาย แต่ป่วยได้ ตายได้ และจะทรมานระยะยาว หากเกิดปัญหา Long COVID ”

 

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด

 

ขณะเดียวกัน หมอธีระ ได้แจ้ง สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า เมื่อวาน (9 มิ.ย. 2565) ทั่วโลกติดเพิ่ม 522,747 คน ตายเพิ่ม 1,220 คน รวมแล้วติดไป 538,563,604 คน เสียชีวิตรวม 6,327,685 คน 

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมนี ไต้หวัน เกาหลีเหนือ สหรัฐอเมริกา และบราซิล

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 69.15 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 63.03 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 35.01 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 23.68
 

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด

 สถานการณ์ระบาดของไทย 

จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนติดเชื้อที่รายงานของไทยนั้นไม่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับประเทศอื่นได้ เพราะหลัง 1 มิ.ย. มีการประกาศปรับมารายงานเพียงจำนวนคนป่วย ไม่ใช่รายงานการติดเชื้อใหม่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

 

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

 

ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 7.95% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย (อย่างไรก็ตามหากปรับตามคาดประมาณสัดส่วนของคนที่มีโรคร่วมเหมือน UK จะพบว่าคิดเป็น 11.03%

 

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด

 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 ผู้ป่วยใหม่ จำนวน 2,836 ราย จำแนกเป็น..

  • ผู้ป่วยในประเทศ 2,835 ราย
  • ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย
  • ผู้ป่วยสะสม 2,256,453 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  • หายป่วยกลับบ้าน 3,518 ราย
  • หายป่วยสะสม 2,256,552 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  • ผู้ป่วยกำลังรักษา 24,556 ราย
  • เสียชีวิต 24 ราย
  • เสียชีวิตสะสม 8,588 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  • จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 673 ราย 

 

งานวิจัย ม.ออกซฟอร์ด ระบุโอมิครอน BA.4-BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน-ดื้อยา มากที่สุด
ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat และ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

logoline