svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

ระวังโรคที่สามารถติดต่อได้ แค่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน หรือกินอาหารร่วมกัน

04 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รู้หรือไม่? แค่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน หรือกินอาหารร่วมกันแต่ไม่ใช้ช้อนกลาง เพิ่มโอกาสเสี่ยงติดโรคติดต่อได้ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

ขึ้นชื่อว่า “โรคติดต่อ” ความน่ากลัวคือมันสามารถติดต่อกันได้ไม่เลือกหน้า มาดูกันว่าหากเราใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น กินอาหารร่วมกันแต่ไม่ใช้ช้อนกลาง กินน้ำแก้วเดียวกัน ใช้หลอดดูดน้ำร่วมกัน อาจนำพาโรคไหนมาสู่ร่างกายของเราได้บ้าง

ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย และผ่านการหายใจ ไอ จามรดกัน

อาการ ไข้ต่ำๆ หรืออาจไม่มีไข้เลยก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่จะมีอาการแสดงออกถึงการเป็นหวัดจากทางจมูกและทางเดินหายใจ อันได้แก่ ผู้ป่วยจะมีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาจากจมูก

โควิด-19 ติดต่อผ่านระบบหายใจ จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย 

อาการโดยทั่วไป มีไข้สูง ไอ คัดจมูก คล้ายกับไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ แต่หากเป็นรุนแรงมากจะมีโอกาสปอดอักเสบ

การใช้ช้อนร่วมกัน เพิ่มความเสี่ยงโรคติดต่อผ่านทางน้ำลาย

เริมที่ปาก (Herpes Simplex) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส  Herpes virus (HSV) ในน้ำลาย น้ำเหลือง อสุจิ และจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง เยื่อเมือกและเยื่อบุช่องปาก จากการดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน รวมทั้งการจูบปาก

อาการ ของเริมที่ปาก เป็นแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใส ๆ และรู้สึกคันขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรือในช่องปาก มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว มีอาการปวดหรืออักเสบ แต่จะไม่มากเท่าเกิดบริเวณอวัยวะเพศ แผลจะแห้งตกสะเก็ดและหายไปเอง 7–10 วัน

....ใช้หลอดดูดน้ำร่วมกัน จะติดเอดส์ไหม?

เรามักสงสัยว่าการใช้หลอดดูดน้ำร่วมกับผู้ป่วย HIV จะติดเอดส์ไหม คำตอบคือ โรคเอดส์ไม่ติดกันทางน้ำลาย เนื่องจากน้ำลายมีสมบัติเป็นเบสอ่อน ไม่เหมาะกับการอาศัยอยู่ของเชื้อ HIV และในน้ำลายมีปริมาณเชื้อ HIV น้อยมาก เพราะในน้ำลาย 1 มิลลิลิตรจะพบเชื้อ HIV แค่ 1 ตัวเท่านั้น ทั้งนี้ หากหลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำร่วมกับผู้อื่นได้ก็จะดีที่สุด

คออักเสบ (Strep throat) ติดต่อจากเชื้อแบคทีเรียกรุ๊ป เอ สเตรปโตคอกคัส ในน้ำลาย หรืออาจปนเปื้อนในน้ำมูกและเสมหะ

อาการ มีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น เบื่ออาหาร เจ็บคอ และจะเจ็บคอมากขึ้นตอนที่กลืนอาหาร ถ้าอ้าปากดูจะเห็นว่าต่อมทอนซิลแดง มีลักษณะคล้ายหนอง มีสีเหลืองๆ ปกคลุมบนผิวของต่อมทอนซิล และหากลองจับต่อมน้ำเหลืองที่คอจะรู้สึกว่าบวม ส่วนใหญ่หายได้เองใน 7 วัน  แต่ถ้าไปหาหมอ กินยาปฏิชีวนะมากิน จะช่วยให้หายเร็วขึ้นภายใน 3 วัน

 

ทอนซิลอักเสบ ติดต่อผ่านน้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วยก็มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อในลำคอ

อาการไข้สูง เสียงแหบ ร่วมด้วย แต่หากมีอาการทอนซิลอักเสบชนิดเป็นหนองจะรุนแรงกว่าการติดเชื้อไวรัส เพราะผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เจ็บคอมากจนกลืนน้ำลายหรืออาหารลำบาก

 

โรคคอตีบ (Diphtheriae) ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย และผ่านการหายใจ ไอ จามรดกัน

อาการ มีอาการคล้ายหวัด ไข้ต่ำ ๆ พบแผ่นเยื่อสีขาวบริเวณทอนซิลและลิ้นไก่ รายที่รุนแรง เกิดการอุดตัน ของทางเดินหายใจส่วนบนกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำให้เสียชีวิตได้

 

คางทูม (Mumps) ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย ผ่านทางการหายใจ และรับประทานอาหารร่วมกัน

อาการ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย และปวดในรูหูหรือหลังหูขณะเคี้ยว กลืนอาหาร หรือแม้กระทั่งดื่มน้ำ

 

ไอกรน (Pertussis) ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย และผ่านการหายใจ ไอ จามรดกัน จากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis

อาการคล้ายหวัด แต่จะมีอาการไอต่อเนื่องอย่างรุนแรง มีเสียงดังวู้ป (whoop) ซึ่งเป็นเสียงการดูดลมเข้าอย่างแรงคล้ายหายใจลำบาก สลับกันไปกับการไอเป็นชุด ๆ จึงมีชื่อเรียกว่า "โรคไอกรน" บางครั้งอาการอาจจะเรื้อรังนานเป็นเวลา 2-3 เดือน ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กเล็กที่ยังได้รับวัคซีนป้องกันไม่ครบ แต่หากผู้ใหญ่ป่วยไอกรนอาการจะไม่รุนแรงมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวัง เพราะติดต่อกันง่าย

ระวังโรคที่สามารถติดต่อได้ แค่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน หรือกินอาหารร่วมกัน

วัณโรค ติดต่อง่ายแค่โดยละอองฝอยจากน้ำลายผู้ติดเชื้อก็มีโอกาสป่วยแล้ว

อาการของวัณโรค ได้แก่ ไอเรื้อรังติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ มีไข้ต่ำๆ ช่วงบ่ายหรือเย็น เหงื่อออกตอนกลางคืน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งควรไปพบแพทย์ทันที

 

โรคหัด ติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย การไอ จามรดกัน โดยเชื้อแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศ

อาการโรคหัดจะเริ่มด้วยอาการคล้ายกับหวัด อาการแรกเริ่มของโรคหัดที่จะเริ่มขึ้นประมาณ 10 วันหลังติดเชื้อ จะมีอาการคล้ายหวัด ตาแดง ไข้สูง เบื่ออาหาร เกิดจุดขาวในกระพุ้งแก้ม

 

โรคหัดเยอรมัน ติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย การไอ จามรดกัน โดยเชื้อแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศ

อาการ ไข้สูง น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง มีผื่นหรือตุ่มที่เยื่อบุช่องปาก กระพุ้งแก้ม (Koplik spots) หลังมีอาการ 3 – 7 วันจะมีผื่นทีไรผม ซอกคอ หน้า ลำตัว โดยรับเชื้อที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยผ่านทางการหายใจ จากการไอจาม ทารกที่เป็นโรคจะมีเชื้ออยู่ในลำคอและขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะได้นาน 1 ปี

 

โรคหูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum) ติดต่อจากการใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ผ้าเช็ดตัว รองเท้า เกิดจากเชื้อไวรัส  Molluscum contagiosum virus (MCV)

อาการ เป็นตุ่มเนื้อขนาดเล็ก มีสีเดียวกับผิวหนัง รูปโดม ผิวหูดเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก มีรอยบุ๋มตรงกลางคล้ายสะดือ เวลาบีบตุ่มออกจะได้สารสีขาวข้างในคล้ายข้าวสุก มักขึ้นตามลำตัว ท้อง แขน ขา รักแร้ ใบหน้า ดวงตา ขาหนีบ บริเวณอวัยวะเพศ แต่จะไม่รู้สึกคันหรือเจ็บ หากเรามีภูมิคุ้มกันดี โรคนี้จะหายไปได้เองภายใน 2-9 เดือน (เฉลี่ย 2-3 เดือน) แต่หากมีโรคแทรกซ้อนอาจใช้เวลานานเป็นปี

 

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) ติดต่อจากการสัมผัสและใช้สิ่งของร่วมกับคนป่วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหลอดดูดน้ำ แก้วน้ำ ช้อนส้อม

อาการรุนแรงถึงขั้นหูหนวก ตาบอด เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และรา เมื่อติดเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง คลื่นไส้อาเจียน ชัก ตาสู้แสงไม่ได้

 

โรคอีโบลา ติดต่อผ่านการสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ได้แก่ เลือด น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ของใช้ของผู้ป่วย หรือสัตว์ที่ป่วย

อาการ ระยะแรกไข้ขึ้นสูง (39 – 40°C) อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ระยะที่ 2 ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหารโดยจะเริ่มแสดงอาการ 2 – 4 วันและจะคงอยู่นาน 7 – 10 วัน ระยะที่ 3 ความดันเลือดต่ำส่งผลให้อวัยวะเสื่อมหน้าที่ ป้องกันและหลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย หรือหากมีอาการให้พบแพทย์ทันที

 

โรคซารส์ หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย และผ่านการหายใจ ไอ จามรดกัน

อาการ ผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ไม่ได้แสดงอาการทุกราย ควรจะต้องระมัดระวังสังเกตตนเองเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ อาการที่สำคัญคือ ไข้สูงกว่า 38°C และปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดหัวมาก หนาวสั่นหลังจากนั้นประมาณ 3 – 7 วันก็จะเริ่มมีอาการเจ็บคอ ไอแห้ง ๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 อาการจะทุเลาอย่างช้า ๆ หลังจาก 7 วัน ไปแล้วและหายเป็นปกติ บางรายอาจอาการป่วยรุนแรง เนื่องจากมีอาการแทรกซ้อนที่ปอด ทำให้เกิดปอดบวมอักเสบ

ระวังโรคที่สามารถติดต่อได้ แค่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน หรือกินอาหารร่วมกัน

โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อผ่านมือ ของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย หรือผ่านทางการไอ จาม รดกัน

อาการ เริ่มจากมีไข้ มีแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน และมีผื่นขึ้นเป็นจุดแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสที่บริเวณ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว แขน ขา หากติดเชื้อสายพันธุ์เอนเทอโรไวรัส (EV) 71 อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง ซึม อ่อนแรง ชักกระตุก มือสั่น เดินเซ

 

ไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal meningitis) โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรงมากจากเชื้อ Neisseria meningitidis ที่น่ากลัวคือสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการหายใจ ไอ จาม แม้กระทั่งสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ที่เป็นพาหะหรือคนที่เป็นโรคก็เสี่ยงติดเชื้อได้แล้ว โดยเชื้อจะผ่านเข้าไปทางลำคอแล้วเข้าไปในกระแสเลือด บางคนติดเชื้อแล้วไม่มีอาการก็เป็นเพียงพาหะเท่านั้น

แต่หากเชื้อเล็ดรอดเข้าสู่กระแสโลหิตหรือระบบประสาทส่วนกลางได้ อาการของโรคจะรุนแรงขึ้น เริ่มจากมีอาการคล้ายไข้หวัด เจ็บคอ ไอ ปวดศีรษะ มีไข้สูง จากนั้นจะมีผื่นขึ้นตามตัว ลักษณะคล้ายจุดเลือดออก และเป็นแฉกคล้ายดาวกระจาย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค

 

เห็นแล้วใช่ไหมว่าเรื่องไม่คาดคิดบางเรื่องอาจเกิดจากความเคยชิน ความประมาท หรือเรื่องที่เราคิดว่า "ไม่เป็นไร" เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่อาจติดกันได้ผ่านทางน้ำลาย เราจึงแนะนำให้ทุกคนไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันกับผู้อื่น โดยเฉพาะเวลากินอาหารอาหาร ดื่มน้ำ และออกกำลังกายเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคได้

 

 

logoline