เปิดข้อมูล "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A" อันตรายแค่ไหน หลัง นายกฯเศรษฐา ต้องงดภารกิจ

จากกรณีผลจากการจรวจเลือด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พบว่า ป่วยเป็น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แม้วันนี้ (31 ม.ค.) นายกฯ ยังคงเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ แต่เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นห่วงว่าจะนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนใกล้ชิด จึงได้รีมอบหมาย ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2566 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาลแทน

นอกจากนี้ใน เวลา 12.30 น. นายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ปฎิบัติหน้าที่แทนในการต้อนรับเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายธานี สิงหนาท ในโอกาสนำคณะเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน (Belia Thai Sejiwa Sehati) รุ่นที่ 8 และผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม เข้าพบเพื่อรับโอวาท ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก)

 

ทำความรู้จัก ไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ มักจะมีการระบาดมากในช่วงฤดูฝน พบได้ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ โดย​ไข้หวัดใหญ่จะแบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก

• สายพันธุ์  A
• สายพันธุ์  B
• สายพันธุ์  C 

การแพร่ติดต่อของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ติดต่อไปยังคนอื่น ๆ  โดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป หากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู  โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น

เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก ผู้ป่วยอาจเริ่มแพร่เชื้อได้ ตั้งแต่ 1 วันก่อนป่วย โดยช่วง 3 วันแรก จะแพร่เชื้อได้มากสุด และระยะแพร่เชื้อมักไม่เกิน 7 วัน

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A น่ากลัวแค่ไหน?
ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A  มีชื่อเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 ระบาดลุกลามไปในหลายทวีป แม้จะมีอัตราผู้เสียชีวิตต่ำไม่รุนแรงเท่าไวรัสไข้หวัดนก แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก เพราะรูปแบบการติดเชื้อจากคนสู่คนแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในหลายประเทศต่างตื่นตัวเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันโรคนี้แก่ประชาชน

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 เกิดจากการผสมผสานของไวรัสสายพันธุ์ของคน หมู และนก ไม่เป็นที่ปรากฏว่าเชื้อนี้ได้เริ่มติดในคนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้นแล้ว พบว่า เป็นการแพร่กระจายและติดต่อจากคนสู่คน เชื้อนี้ไม่ได้พบในหมูทั่วไป จึงไม่ติดต่อโดยการสัมผัสหรือกินเนื้อหมู

ผู้ป่วยด้วยโรคไวรัสชนิดใหม่นี้อาจมีอาการน้อยมากจึงถึงรุนแรงมาก ๆ และปอดบวม ซึ่งก็เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ที่มีระบาดอยู่เป็นประจำ

เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ สามารถแพร่ไปยังผู้อื่นโดยการ ไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่

ที่สำคัญ ผู้ที่มีอาการรุนแรงและถึงแก่กรรมมักจะอยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี!

อาการที่น่าสงสัย ไข้หวัดสายพันธุ์ A
อาการป่วยของ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการหลังจากได้รับเชื้อไวรัส 1 – 3 วัน น้อยรายที่นานถึง 7 วัน อาการป่วยใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ  อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง  หายป่วยได้โดยไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล อาการจะทุเลาและหายป่วยภายใน 5 – 7 วัน แต่บางรายที่มีอาการปอดอักเสบ รุนแรง จะพบว่าหายใจเร็ว เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก 

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะโรคปอด โรคหัวใจ โรคเรื้อรังต่าง ๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการปอดบวม หัวใจวาย และเสียชีวิตได้อาจทำให้เสียชีวิตได้

สำหรับอาการที่น่าสงสัย ประกอบด้วย

• ระบบทางเดินหายใจมีความผิดปกติ อาทิ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ
• ไข้ขึ้นสูง ประมาณ 38 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านี้
• อาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วยในผู้ป่วยบางราย

การรักษา ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส ชื่อ ยาโอลเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) เป็นยาชนิดกิน หากผู้ป่วยได้รับยาภายใน 2 วันหลังเริ่มป่วย จะให้ผลการรักษาดี

สำหรับ ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ และยังรับประทานอาหารได้ อาจไปพบแพทย์ที่คลินิก  หรือรับยา และขอคำแนะนำจากเภสัชกรใกล้บ้าน และดูแลรักษากันเองที่บ้าน ทำตามหลักการ ดังนี้

• รับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ
• เช็ดตัวลดไข้เป็นระยะ ด้วยน้ำสะอาด ไม่เย็น
• ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มาก ๆ งดดื่มน้ำเย็น
• พยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ได้มากพอ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผักผลไม้ 
• นอนหลับพักผ่อนมาก ๆ ในห้องที่อากาศถ่ายเทดี
• ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งต้องรับประทานยาจนหมดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ดื้อยา

การป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A 
ยาต้านไวรัสไขหวัดใหญ่มีอยู่ไม่กี่ชนิดนัก ยาชื่อ “โอเซลตามิเวียร์” สามารถรักษาโรคไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่นี้ได้ แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็น ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ป้องกันการใช้พร่ำเพรื่อทำเชื้ออาจดื้อยาได้

สำหรับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดสายพันธุ์ A และ B  วัคชีนจะไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยวัคซีนมีความแตกต่างของวัคชีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์

• วัคชีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธ์ ประกอบด้วย เชื้อไวรัสชนิดสายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ B 1 สายพันธุ์
• วัคชีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย เชื้อไว้รัสชนิดสายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์

การฉีดวัคชีนไข้หวัดใหญ่สามรถฉีดได้ตลอดทั้งปี และควรได้รับการฉีดวัคชีนปีละครั้ง เพราะวัคชีนมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของสายพันธุ์ไวรัสที่บรรจุในวัคชีนทุกปี โดยเป็นสายพันธุ์ที่คาดว่าน่าจะเกิดการระบาดในปีนั้นๆ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น ในประเทศไทยพบการระบาดหลักของโรคในช่วงหน้าฝน จึงแนะนำให้ฉีดวัคชีนป้องกันข้หวัดใหญ่ก่อนเข้าฤคูฝน ประมาณช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ของทุกปี