หน้าร้อนปีนี้ UV Index หรือความแรงของแสงแดดในประเทศไทยช่วงนี้อยู่ในเกณฑ์สูงมาก โดยมีค่าเฉลี่ยประมาณ 11 – 12 ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้แดด (Sunburn) ผิวคล้ำเสียหากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม "ธัญ" จึงร่วมกับ แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะนำวิธีฟื้นฟูสภาพผิวหน้าแบบเร่งด่วน หมดห่วงเรื่องปัญหาผิวหลังออกแดด
ข้อดีข้อเสียของแสงแดด
แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช อธิบายว่าแสงแดดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน แต่หากได้รับแสงแดดปริมาณมากเกินไป หรือนานกว่า 15 นาที รังสียูวีในแสงแดดก็สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง ดวงตา และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
โดยแสงแดดก่อให้เกิดผลกระทบดังนี้
ในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการผิวคล้ำ (Tanning) โดยอาการผิวคล้ำจะแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับคือ
ซึ่งอาการผิวคล้ำ (Tanning) สามารถหายได้เองโดยธรรมชาติ
อาการผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นภาวะผิวหนังชั้นนอกเกิดการอักเสบเนื่องจากถูกรังสียูวีเอและยูวีบีทำลาย ทำให้ผิวหนังแดง แสบร้อน ระคายเคือง รวมถึงมีอาการคล้ายไข้หวัด คือหนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียร่วมด้วย อาการผิวไหม้แดดจะเกิดหลังโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการปรากฏให้เห็นหลังโดนแดดเพียง 30 นาที
ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมต่างๆ อาทิ สภาพผิว ระดับความเข้มของแสงแดด และระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด โดยจะมีอาการแตกต่างกัน สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ
กลไกปกป้องผิวจากแสงแดด
แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม
โดยปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีกลไกปกป้องผิวจากแสงแดด โดยจะสร้างเม็ดสีผิว หรือเมลานิน (Melanin) ทำให้ผิวมีสีน้ำตาลแดงจนถึงสีดำขึ้นมา ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองแสง ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวี โดยร่างกายจะผลิตเมลานินได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ คนที่ผิวผลิตเมลานินได้น้อยหรือคนที่มีผิวขาว เมื่อสัมผัสกับแสงแดดผิวก็อาจจะเกิดอาการผิวไหม้ได้ง่ายกว่าคนที่ผลิตเมลานินได้มากกว่าหรือคนที่มีผิวเข้มกว่า ส่วนระยะเวลาที่ผิวไหม้แดดจะหายกลับมาเป็นปกตินั้นขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ดังนี้
วิธีการฟื้นฟูสภาพผิวหลังออกแดด
หากอาการผิวไหม้แดดในระดับที่ไม่รุนแรง อาการจะหายได้เองตามธรรมชาติ โดยผิวชั้นบนจะเริ่มลอกออกในช่วง 2-3 วันหลังการไหม้แดดหรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งผิวใหม่ที่ขึ้นมานั้นจะยังมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ในกรณีที่ผู้ป่วยมีตุ่มน้ำขนาดใหญ่และอาจต้องเจาะให้น้ำออก ควรใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อและทำการล้างแผลให้สะอาดก่อนด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผล โดยเลือกเจาะบริเวณขอบของแผลและปล่อยให้น้ำข้างในไหลออกมาให้หมด จากนั้นควรทายาฆ่าเชื้อรูปแบบครีมขี้ผึ้ง (Topical Antibiotic Ointments) เพื่อป้องกันแผลไม่ให้ติดเชื้อ และเลือกเครื่องแต่งกายที่ไม่แน่นจนเกินไปเพื่อลดการเสียดสี
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ อาทิ