svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

ผิวไหม้แสบพังหลังออกแดด แพทย์ผิวหนังแนะวิธีฟื้นฟูฉบับเร่งด่วน

11 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เล่นน้ำสงกรานต์ตัวการทำผิวเสีย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามชวนเคลียร์ผิวไหม้แดดให้กลับมาสวย ด้วยวิธีการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าแบบเร่งด่วน หมดห่วงเรื่องปัญหาผิวหลังออกแดด

หน้าร้อนปีนี้ UV Index หรือความแรงของแสงแดดในประเทศไทยช่วงนี้อยู่ในเกณฑ์สูงมาก โดยมีค่าเฉลี่ยประมาณ 11 – 12 ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้แดด (Sunburn) ผิวคล้ำเสียหากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม "ธัญ" จึงร่วมกับ แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะนำวิธีฟื้นฟูสภาพผิวหน้าแบบเร่งด่วน หมดห่วงเรื่องปัญหาผิวหลังออกแดด

ผิวไหม้แสบพังหลังออกแดด แพทย์ผิวหนังแนะวิธีฟื้นฟูฉบับเร่งด่วน

ข้อดีข้อเสียของแสงแดด

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช อธิบายว่าแสงแดดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน แต่หากได้รับแสงแดดปริมาณมากเกินไป หรือนานกว่า 15 นาที รังสียูวีในแสงแดดก็สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง ดวงตา และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

โดยแสงแดดก่อให้เกิดผลกระทบดังนี้

ในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการผิวคล้ำ (Tanning) โดยอาการผิวคล้ำจะแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับคือ

  • การเกิดผิวคล้ำโดยทันที (Immediate Pigment Darkening, IPD) 
  • การเกิดผิวคล้ำขึ้นทีหลัง (Delayed Tanning, DT) ภายหลังที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด

ซึ่งอาการผิวคล้ำ (Tanning) สามารถหายได้เองโดยธรรมชาติ

ผิวไหม้แสบพังหลังออกแดด แพทย์ผิวหนังแนะวิธีฟื้นฟูฉบับเร่งด่วน

อาการผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นภาวะผิวหนังชั้นนอกเกิดการอักเสบเนื่องจากถูกรังสียูวีเอและยูวีบีทำลาย ทำให้ผิวหนังแดง แสบร้อน ระคายเคือง รวมถึงมีอาการคล้ายไข้หวัด คือหนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียร่วมด้วย อาการผิวไหม้แดดจะเกิดหลังโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการปรากฏให้เห็นหลังโดนแดดเพียง 30 นาที

ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมต่างๆ อาทิ สภาพผิว ระดับความเข้มของแสงแดด และระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด โดยจะมีอาการแตกต่างกัน สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ

  • ระดับที่หนึ่ง ผิวไหม้แดดเล็กน้อย ผิวจะมีอาการแดง บางรายมีอาจมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ผิวบริเวณที่ไหม้แดดจะลอก เนื่องจากกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหนัง
  • ระดับที่สอง ผิวไหม้แดดปานกลาง ผิวจะมีอาการไหม้ แสบ คัน บางรายอาจมีอาการบวมแดง แสบ รวมถึงเกิดอาการผิวคล้ำ
  • ระดับที่สาม ผิวไหม้แดดรุนแรง ผิวจะมีอาการไหม้แดดอย่างรุนแรง ปวดแสบปวดร้อน เกิดเป็นตุ่มน้ำร่วมกับอาการคัน และอาจต่อการเกิดโรคเพลียความร้อน (Heat exhaustion) และโรคลมแดดหรือฮีตสโตรก (Heat stroke) โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ

กลไกปกป้องผิวจากแสงแดด

ผิวไหม้แสบพังหลังออกแดด แพทย์ผิวหนังแนะวิธีฟื้นฟูฉบับเร่งด่วน แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม 

โดยปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีกลไกปกป้องผิวจากแสงแดด โดยจะสร้างเม็ดสีผิว หรือเมลานิน (Melanin) ทำให้ผิวมีสีน้ำตาลแดงจนถึงสีดำขึ้นมา ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองแสง ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวี โดยร่างกายจะผลิตเมลานินได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ คนที่ผิวผลิตเมลานินได้น้อยหรือคนที่มีผิวขาว เมื่อสัมผัสกับแสงแดดผิวก็อาจจะเกิดอาการผิวไหม้ได้ง่ายกว่าคนที่ผลิตเมลานินได้มากกว่าหรือคนที่มีผิวเข้มกว่า ส่วนระยะเวลาที่ผิวไหม้แดดจะหายกลับมาเป็นปกตินั้นขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ดังนี้

  • ระดับที่ไม่รุนแรง อาการปวดและแดงจะลดลงภายใน 3-5 วัน อาจมีอาการผิวลอกในช่วงวันสุดท้าย เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน
  • ระดับรุนแรงปานกลาง ยังคงมีอาการเจ็บปวด ผิวบวมแดง และแสบร้อนเมื่อสัมผัสโดน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการฟื้นฟูให้ผิวกลับมามีสภาพปกติ และผิวอาจลอกหลังจากหายเป็นปกติแล้วประมาณ 2-3 วัน
  • ระดับรุนแรงมาก ยังคงมีอาการแดงมาก แสบร้อน มีตุ่มน้ำ (second degree sunburn) เกิดขึ้น ต้องใช้เวลารักษามากกว่า 2 สัปดาห์จนกว่าสภาพผิวจะฟื้นฟูเป็นปกติขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

วิธีการฟื้นฟูสภาพผิวหลังออกแดด

หากอาการผิวไหม้แดดในระดับที่ไม่รุนแรง อาการจะหายได้เองตามธรรมชาติ โดยผิวชั้นบนจะเริ่มลอกออกในช่วง 2-3 วันหลังการไหม้แดดหรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งผิวใหม่ที่ขึ้นมานั้นจะยังมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ในกรณีที่ผู้ป่วยมีตุ่มน้ำขนาดใหญ่และอาจต้องเจาะให้น้ำออก ควรใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อและทำการล้างแผลให้สะอาดก่อนด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผล โดยเลือกเจาะบริเวณขอบของแผลและปล่อยให้น้ำข้างในไหลออกมาให้หมด จากนั้นควรทายาฆ่าเชื้อรูปแบบครีมขี้ผึ้ง (Topical Antibiotic Ointments) เพื่อป้องกันแผลไม่ให้ติดเชื้อ และเลือกเครื่องแต่งกายที่ไม่แน่นจนเกินไปเพื่อลดการเสียดสี

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ อาทิ

  1. ใช้ผ้าเย็นหรือผ้าชุบน้ำประคบลงบนผิว ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นจัด
  2. หลีกเลี่ยงการขัดถูผิว แต่ให้ใช้วิธีการซับอย่างเบาๆ มือแทน
  3. ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ คาลาไมน์ หรือชิโซะ เพื่อบรรเทาอาการแห้งและสูญเสียน้ำ ควรทาทันทีหลังอาบน้ำเสร็จขณะที่ตัวหมาดๆ
  4. มาส์กหน้าเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้สว่างใส อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง  แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น (Grape extract) และสารสกัดจากรากหม่อน (Mulberry root extract) หรือกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากพืชทะเลทราย (Ougon extract), สารสกัดจากทีฮาโลส (Trehalose extract) หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ อย่าง AHA หรือกรดผลไม้ที่อ่อนโยน รวมถึงสารสกัดที่สามารถลดเลือนริ้วรอยได้
  5. ดื่มน้ำเปล่าเพื่อชดเชยและป้องกันการสูญเสียน้ำของร่างกาย
  6. หากมีตุ่มน้ำควรปล่อยตุ่มน้ำให้แตกเองตามธรรมชาติ และล้างหรือทำความสะอาดแผลที่แตกแล้วบ่อย ๆ หากใช้วิธีบรรเทาแล้วยังไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ทันที
  7. หลีกเลี่ยงการออกแดดจนกว่าผิวจะหายดี เพราะผิวไหม้แดดจะมีความบอบบางและไวต่อแสง ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
logoline