
เคยเป็นไหม ง่วงบ่อย ง่วงเก่ง รู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย ต้องการความหวานระหว่างวัน นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังเป็น "โรคเบาหวาน" ซึ่งหนึ่งในอาการที่อาจพบได้ในผู้ป่วยเบาหวานบางรายคือความอ่อนล้าของร่างกาย โดยมีสาเหตุมาจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป หรือเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด การติดเชื้อแทรกซ้อน รวมไปถึงความเครียด โรคนอนไม่หลับ และภาวะซึมเศร้า ที่อาจพบร่วมด้วยได้ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ภาวะสุขภาพเหล่านี้สามารถส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สดชื่น รู้สึกอ่อนเพลีย และง่วงนอนผิดปกติได้
เช็กลิสต์อาการที่พบบ่อยในผู้เป็นเบาหวานมีเป็นอาการจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงโดยตรง และอาการเนื่องจากโรคแทรกซ้อน ได้แก่
ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย เมื่อระดับน้ำตาลสูงมากกว่า 180 มก./ดล.ร่างกายจะพยายามขับน้ำตาลออกนอกร่างกายโดยการปัสสาวะออกมา ซึ่งทำให้สูญเสียน้ำไปด้วย จึงปัสสาวะบ่อย คอแห้ง หิวน้ำ
หิวบ่อย น้ำหนักลด อ่อนเพลีย การที่อินซูลินไม่สามารถนำเอาน้ำตาลกลูโคสไปส่งให้อวัยวะต่างๆใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงพยายามสลายพลังงานออกมาจากไขมันและกล้ามเนื้อออกมาใช้ ทำให้กล้ามเนื้อลีบ จึงมีอาการอ่อนเพลีย หิวบ่อย และน้ำหนักลด
แผลหายยาก มีการติดเชื้อตามผิวหนังง่าย เกิดฝีบ่อย ภาวะน้ำตาลสูง ทำให้ความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อโรคลดลง จึงติดเชื้อง่าย
คันตามผิวหนัง มีการติดเชื้อราง่าย สาเหตุของการคันเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น ผิวหนังแห้งเกินไป หรือการอักเสบของผิวหนังซึ่งพบได้บ่อยในผู้เป็นเบาหวาน
ตาพร่ามัว มีสาเหตุหลายประการ เช่น อาจเป็นสายตาเปลี่ยน (สายตาสั้นลง) เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงและน้ำตาลไปคั่งอยู่ในตาหรือตามัว อาจเกิดจากต้อกระจก หรือจอประสาทตาผิดปกติ จากโรคเบาหวาน
ชาปลายมือปลายเท้า หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากน้ำตาลที่สูงนานๆ ทำให้เส้นประสาทเสื่อม การรับความรู้สึกลดลง จึงชาหรือไม่รู้สึกเจ็บปวด ทำให้เกิดแผลที่เท้าตามมา
อาการง่วงนอนตลอดเวลาในผู้ป่วยเบาหวานเกิดจากอะไร?
ผู้ป่วยเบาหวานบางรายอาจมีอาการเซื่องซึม เหนื่อยล้า รู้สึกอ่อนล้า และอ่อนเพลียง่ายกว่าปกติ รวมไปถึงอาจรู้สึกง่วงนอน ไม่สดชื่น เกือบตลอดทั้งวัน โดยอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานหนัก ทั้งยังอาจเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งอาจมาจากระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมดุลกับการทำงานของอินซูลินในร่างกาย ดังนั้น หากสังเกตว่าตนเองเหนื่อยล้าระหว่างวันหรือง่วงนอนตลอดเวลา แม้ว่าจะนอนหลับอย่างเพียงพอตลอด สิ่งนี้อาจเป็นอาการของระดับน้ำตาลที่สูงหรือต่ำไปเกินไปได้
นอกจากนี้ อาการอ่อนล้า ไม่สดชื่น หรือง่วงนอน ยังอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นๆ ดังนี้
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและต่ำ โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคติดเชื้อ
ปัญหาสภาพจิตใจและอารมณ์ เช่น โรคเครียด ภาวะซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ ที่อาจพบร่วมด้วยได้ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรืออาจเกิดจากผู้ป่วยมีรูปแบบการนอนที่ผิดปกติไป ทำให้หลับไม่สนิท จนรู้สึกอ่อนล้า
ปัญหาน้ำหนักเกินและโรคอ้วน อาจทำให้เกิดโรคนอนกรนและเกิดปัญหาการนอนหลับตามมา รวมทั้งผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนยังอาจรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้ง่ายในการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เมื่อเทียบกับคนรูปร่างปกติ
อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจากโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำมาก น้ำหนักลดกะทันหัน อาจนำไปสู่อาการเหนื่อยล้าได้
ปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น การเจ็บป่วยเฉียบพลัน ความเครียด โรคโลหิตจาง ความไม่สมดุลของฮอร์โมน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคนอนกรน
วิธีรับมือกับอาการง่วงนอนตลอดเวลาจากเบาหวาน อาจทำได้ด้วยการจัดการปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ดังนี้