svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

รู้จัก Karoshi Syndrome ทำงานจนตาย โรคยอดฮิตคนญี่ปุ่น

07 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร เตือนกลุ่มคนรักงานต้องรักตัวเองก่อนภัยสุขภาพมาเยือน! เปิดเรื่องราวน่ากลัวของคนทำงานหนักที่อาจเสี่ยงภาวะ “Karoshi Syndrome“ โหมงานจนตัวตาย หนึ่งในโรคยอดฮิตของคนญี่ปุ่นและมนุษย์ทำงาน

การสะสมความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ กลายเป็น “ระเบิดเวลา” สำหรับตัวเลขนับถอยหลังดังกล่าวใช้เตือนสติให้ระมัดระวังเรื่องของการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้น บาลานซ์ชีวิต-การทำงาน-การพักผ่อน ให้ได้ตามสูตร 8-8-8 8 โดย 8 ชั่วโมงแรก ใช้เพื่อพักผ่อนที่บ้าน 8 ชั่วโมงที่สอง ใช้เพื่อทำงานให้เต็มที่ และใช้ 8 ชั่วโมงที่สาม ใช้เพื่อเดินทางและทำกิจกรรมอื่นๆ แต่หากคุณคือคนหนึ่งที่ทำงานหนัก รู้สึกเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย สุขภาพกายพัง สุขภาพจิตแย่ นี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีอาการ "Karoshi Syndrome" หนึ่งในโรคยอดฮิตของคนญี่ปุ่นและมนุษย์ทำงาน

รู้จัก Karoshi Syndrome ทำงานจนตาย โรคยอดฮิตคนญี่ปุ่น

Karoshi Syndrome คืออะไร

Karoshi Syndrome เป็นประเภทโรคของคนที่ทำงานหนักจนตัวตาย ชื่อของ Karoshi (คาโรชิ) เริ่มเป็นที่พูดถึงกันในสังคมญี่ปุ่น หลังจากมีข่าวพนักงานหญิงวัย 31 ปี ของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังเสียชีวิตด้วย “ภาวะหัวใจล้มเหลว” แม้ว่าจะมีอายุเพียง 31 ปี ทราบภายหลังว่าก่อนหน้านี้เธอทำงานล่วงเวลาอย่างหนัก ต่อด้วยข่าวการจากไปของพนักงานบริษัทชายที่ฆ่าตัวตายด้วยสภาวะตึงเครียดจากการทำงานให้กับเอเจนซี่ชื่อดังระดับประเทศ หากทำความเข้าใจง่ายๆ “โรคคาโรชิ”  ก็หมายถึงภาวะทำงานหนักจนตาย หรือที่หลายคนเรียกว่า “โรคบ้างาน” ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่ง หากแต่เรียกภาวะที่ร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนักจากการทำงานมากเกินไป จนอาจนำไปสู่สาเหตุของการเสียชีวิตในภายหลังได้นั่นเอง

รู้จัก Karoshi Syndrome ทำงานจนตาย โรคยอดฮิตคนญี่ปุ่น

ต้นเหตุของการเกิด Karoshi Syndrome

สำหรับต้นเหตุการเสียชีวิตจากการเกิด Karoshi Syndrome จะมีอยู่ด้วยกัน 2 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่ การตายเพราะโรค และตายเพราะความเครียดสะสม เนื่องด้วยจากการทำงานอย่างหนักหน่วงทำให้ร่างกายไม่ได้หยุดพัก การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ร่างกายขาดสารอาหารหรืออดอาหาร ในผู้ที่คลั่งงานต้องรอให้งานเสร็จเสียก่อนที่จะรับประทานอาหารได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายไม่อาจทนต่อการเกิดโรค ในกรณีที่มีความเครียดก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจอย่างร้ายแรง กดดันตัวเอง รู้สึกไร้ค่า ทำให้หดหู่และสุดท้ายก็จบลงด้วยการฆ่าตัวตาย

รู้จัก Karoshi Syndrome ทำงานจนตาย โรคยอดฮิตคนญี่ปุ่น

อันตรายจาก Karoshi Syndrome

เนื่องจากคนทำงานมีสภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดโรคหัวใจและอัมพาตจากหลอดเลือดในสมองมากขึ้น ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าคนที่ทำงานหนักมีความเสี่ยงต่อ 3 โรคที่กล่าวข้างต้นสูงมากกว่าปกติ ซึ่งในอุบัติการณ์ยังพบว่ามีหลายคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเจอกับโรคนี้อยู่และยังคงทำพฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ ทำงานหนักจนเครียด การกินอาหารหรือการใช้ตัวช่วยประทังความเครียดก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เมื่อเริ่มทานมากขึ้นไขมันในเลือดก็จะเริ่มสูงตาม โรคอื่นๆ จะเสริมทัพเข้ามาโจมตีและสะสมไปเรื่อยๆ จนร่างกายรับไม่ไหวจนวูบหลับและเสียชีวิตในที่สุด

ทดสอบตัวเองว่าเรากำลังเป็น Karoshi Syndrome อยู่หรือเปล่า?

  • คิดหมกมุ่นเรื่องงานแทบจะตลอดเวลา เหมือนสมองไม่ได้พักผ่อน บางครั้งอาจเก็บไปฝัน
  • ทำงานล่วงเวลาติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน
  • ใช้เวลาในการทำงานเยอะมาก เริ่มงานเร็ว และเลิกงานช้า ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ไม่สามารถลางานได้ ไม่มีโอกาสลางาน หรือแทบไม่ได้ใช้วันลา ทั้งลาป่วย ลาพักผ่อน และลากิจ
  • เคร่งเครียดจากการทำงาน ทำงานภายใต้ภาวะกดดัน
  • แทบไม่เคยใช้วันลาหยุด ไม่ว่าจะลาป่วย หรือลาพักร้อน
  • นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท รู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • แทบไม่มีเวลาพักผ่อน จำไม่ได้ว่าได้พักผ่อนจริง ๆ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
  • ไม่มีเวลาให้ตัวเองและคนที่เรารัก

สาเหตุสำคัญของ Karoshi Syndrome

  • ทำงานล่วงเวลาติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน
  • เริ่มงานเร็ว กลับบ้านช้ากว่าปกติติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
  • แทบไม่เคยใช้วันลาหยุด ไม่ว่าจะลาป่วย หรือลาพักร้อน
  • อยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา แทบไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นนอกจากงาน
  • นอนไม่หลับ มีปัญหาในการนอน หลับไม่สนิท
  • จำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้พักแบบไม่ต้องทำงานจริง ๆ คือตอนไหน
  • เริ่มมีเวลาให้กับคนรอบตัวน้อยลง เช่น ไม่ค่อยได้เจอคนรัก เพื่อน หรือครอบครัว

รู้จัก Karoshi Syndrome ทำงานจนตาย โรคยอดฮิตคนญี่ปุ่น

วิธีป้องกัน Karoshi Syndrome

  • ทำงานล่วงหน้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้ 7-9 ชม. ต่อวัน หากมีปัญหานอนไม่หลับ ควรปรึกษาแพทย์
  • หาเวลาผ่อนคลายสมอง ด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหาร ท่องเที่ยว
  • พบปะเพื่อนฝูง ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวเป็นระยะ
  • หากพบว่าโดนบังคับให้ทำงานหนักมากเกินไป และทำการปรึกษาหัวหน้างานแล้วยังไม่ได้สามารถแก้ไขอะไรได้ การเปลี่ยนงานอาจเป็นอีกทางออกหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานให้ดีขึ้น สุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตอาจดีขึ้น

 

logoline