
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เปิดเผยบทความ เกี่ยวกับการจัดงาน Event ปล่อยก๊าซเรือนกระจกการจากขยะเท่าไหร่ โดยระบุว่า Pride Month หรือ “เดือนแห่งความภาคภูมิใจ” ของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มีการจัดอีเว้นท์ (Event) เฉลิมฉลองที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ทั่วโลกจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี
ทั้งนี้ การจัดงานอีเว้นท์ต้องมีการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งส่วนของการจัดงานและการพักแรม การเดินทางของผู้เข้าร่วมงาน การใช้เชื้อเพลิงในการปรุงอาหาร สิ่งเหลือทิ้งจากการจัดงาน ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะโลกร้อน หากพิจารณาจำนวนขยะจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ปริมาณขยะที่มีมากที่สุดคงหนีไม่พ้นขยะจำพวกถุงพลาสติก และขวดน้ำ รองลงมาก็พวกเศษอาหารเหลือทิ้ง
โดยปัจจุบันการจัดงาน Event ใหญ่ ๆ หันมาให้ความสนใจในการจัดงานแบบ Zero Waste กันมากขึ้น มีการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมภายในงาน ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่มีการประเมินคือของเสียหลังการจัดงาน ซึ่งผู้จัดงานจะต้องมีแนวทางการคัดแยกขยะ การจัดการขยะที่ดี และกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเอง
หากพิจารณาปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการฝังกลบ ในการจัดงาน Event พบว่า
1. เศษอาหาร ปริมาณ 100 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 253 kgCO2e
2. กระดาษ / กระดาษกล่อง* ปริมาณ 23 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 67.39 kgCO2e
3. พลาสติก* ปริมาณ 13 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 30.16 kgCO2e
4. ผ้า ปริมาณ 100 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 200 kgCO2e
5. เศษไม้ ปริมาณ 100 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 333 kgCO2e
6. กิ่งไม้ ต้นหญ้า จากสวน ปริมาณ 100 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 327 kgCO2e
7. ของเสียอื่นๆ ที่ส่วนประกอบของคาร์บอน ปริมาณ 100 kg ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 232 kgCO2e
หมายเหตุ : * ปริมาณขยะพลาสติก กระดาษ/กระดาษกล่อง เป็นปริมาณที่เหลือจากการ Recycle แล้ว
อย่างไรก็ตาม การจัดงานอีเว้นท์สามารถ เป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้ ด้วยการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน โดยส่งเสริมให้มีการจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยที่ดำเนินการตามมาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือมาชดเชยกับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ของการจัดงาน เพื่อทำให้ก๊าซเรือนกระจกสุทธิลดลงเท่ากับศูนย์ เรียกว่า Carbon Neutral
ฉะนั้น หากผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจหรือภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายจัดอีเว้นท์และด้านอื่นๆ ร่วมใจกันสนับสนุนให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านทางการจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกเพื่อเป็นการแสดงความความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ก็จะเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้มีผู้พัฒนาโครงการฯ มากขึ้นด้วย อันจะทำให้ประเทศไทยสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้มากเช่นกัน