
นักบิน มานิศ รัตนา ศักยะ ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่สนามบินตริภูวันในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวันพุธ กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล และสามารถพูดคุยกับครอบครัวได้แล้ว โดยบอกว่า เขาสบายดี นอกจากนี้แพทย์ เปิดเผยว่า เขามีบาดแผลที่ศีรษะและใบหน้า และจะต้องรับการผ่าตัดในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรักษาอาการกระดูกหักที่หลัง
ขณะที่นักบินอีกคน และเจ้าหน้าที่เทคนิคอีก 17 คน ของสายการบิน Saurya Airlines เสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินที่มุ่งหน้าไปยังเมืองโพคารา ประสบเหตุตกเพียงไม่กี่นาทีหลังทะยานขึ้นจากสนามบินจนเกิดไฟลุกท่วม
รัฐมนตรีการบินพลเรือน เปิดเผยว่า เครื่องบินชนกับตู้คอนเทนเนอร์ที่ปลายสุดของสนามบิน แรงกระแทกทำให้ห้องนักบินแยกขาดจากลำตัวเครื่องบิน และยังติดอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ จึงเป็นเหตุผลให้นักบินรอดชีวิตมาได้ ส่วนอื่น ๆ ของเครื่องบิน ตกกระแทกคันดินใกล้เคียง ทำให้ชิ้นส่วนแหลกละเอียด และพื้นที่โดยรอบติดไฟลุกไหม้ และทุกอย่างถูกเผาไหม้
เจ้าหน้าที่กู้ภัย เล่าว่า ตอนที่พวกเขาไปถึงตัวนักบิน มีเปลวไฟลุกใกล้ห้องนักบิน ซึ่งถูกแรงอัดเข้าไปอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ นักบินมีอาการหายใจลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องทุบหน้าต่างแตกและรีบดึงตัวเขาออกมาทันที
แถลงการณ์ของกองทัพ ระบุด้วยว่า นักบินได้รับการช่วยเหลือภายใน 5 นาที หลังเครื่องบินตก และอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างมาก แต่ไม่ได้หมดสติ
ส่วนชุดสอบสวนกำลังตรวจสอบหาสาเหตุของเครื่องบินขนาด 50 ที่นั่งประสบเหตุตก และเบื้องต้นพบว่า เครื่องบินบินผิดทาง โดยหลังทะยานขึ้นจากรันเวย์ เครื่องบินก็เลี้ยวขวา ทั้งที่ควรจะเลี้ยวซ้าย และเครื่องบินตกใส่บริเวณฝั่งตะวันออกของสนามบิน แล้วเกิดไฟลุกท่วม
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง ซึ่งอาศัยใกล้จุดที่เครื่องบินตก และถ่ายคลิปขณะเปลวไฟลุกท่วมและกลุ่มควันดำปกคลุมบริเวณจุดเครื่องบินตก บอกว่า เธอเห็นเปลวไฟลูกใหญ่มาก แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ในเวลานั้น และพอมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ฉีดน้ำดับเพลิงจากระยะไกล ซึ่งหากการกู้ภัยทำงานได้รวดเร็ว ก็น่าจะมีผู้รอดชีวิตมากกว่านี้ และเธอรู้สึกว่า เป็นความละเลยของสนามบิน