
สำนักงานการบินพลเรือนเนปาล เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 11.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพียงไม่กี่นาทีหลังเครื่องบินโดยสารของสายการบิน Saurya Airlines ทะยานขึ้นจากสนามบินนานาชาติตริภูวันในกรุงกาฐมาณฑุในเวลา 11.11 น. โดยเที่ยวบินทดสอบนี้มุ่งหน้าไปยังเมืองโพคารา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบการซ่อมบำรุงตามกำหนด และเครื่องบินตกกระแทกพื้นทางฝั่งตะวันออกของสนามบิน
ผู้อำนวยการสนามบิน เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นแทบทันทีหลังเครื่องบินทะยานขึ้นจากพื้นไม่ถึงนาที และผลการประเมินเบื้องต้น บ่งชี้ว่า เครื่องบินบินผิดทาง โดยบินไปทางขวา ทั้งที่จะต้องบินไปทางซ้าย
อุบัติเหตุเกิดขึ้นในขณะที่กรุงกาฐมาณฑุกำลังเผชิญกับฤดูมรสุม แต่ไม่มีฝนตกในเวลาเกิดเหตุ แม้ว่าทัศนวิสัยค่อนข้างต่ำ สนามบินกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ในบริเวณที่โอบล้อมด้วยภูเขาเกือบทุกด้าน และนับเป็นความท้าทายสำหรับนักบินและเครื่องบินขนาดใหญ่ที่จะบินผ่านภูเขาเพื่อลงจอด
คลิปวิดีโอเผยให้เห็นเครื่องบินสั่นเหนือรันเวย์ก่อนตกลงกระแทกพื้นและไฟลุกท่วม เปลวไฟและกลุ่มควันปกคลุมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ภาพถ่ายเผยให้เห็นหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจค้นซากเครื่องบิน ซึ่งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ลุกไหม้เกือบหมด
ตำรวจระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ซึ่ง 17 ราย เป็นชาวเนปาล และอีกคนเป็นนักบินชาวเยเมน ส่วนนักบินอีกคนที่รอดชีวิตมีอาการบาดเจ็บที่ตาทั้งสองข้างและหน้าผาก แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
สายการบิน Saurya Airlines เป็นสายการบินของเนปาล ที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศด้วยเครื่องบินรุ่น บอมบาร์เดียร์ ซีอาร์เจ-200 จำนวน 3 ลำ เที่ยวบินที่ประสบเหตุมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของสายการบิน 17 คน และนักบิน 2 คน
เนปาลมีประวัติเกิดอุบัติเหตุทางอากาศหลายครั้ง และมีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 350 รายจากเหตุการณ์เครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ตกนับจากปี 2543 โดยครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมกราคม 2566 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 ราย จากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบิน เยติแอร์ไลน์ ตก เนื่องจากนักบินตัดไฟด้วยความผิดพลาด ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับจากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินปากีสถาน อินเตอร์แนชันแนล แอร์ไลน์ตกขณะเข้าใกล้สนามบินกาฐมาณฑุทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดรวม 167 คนเสียชีวิต