บรรดาเด็กนักเรียนชายชาวรัสเซียวัย 14 ปี ในเมืองวลาดีคัฟคาซ ทางตอนใต้ของประเทศ กำลังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ กันในเดือนนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องสวมชุดลายพรางผลัดกันยิงอาวุธและฝึกซ้อมการปฐมพยาบาล ภายใต้สายตาของอาจารย์ผู้สอนที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
การให้นักเรียนฝึกใช้ปืน เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกทหารขั้นพื้นฐาน ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในโครงการภาคบังคับของโรงเรียน ที่ถูกยกเลิกในปีสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ก่อนที่หลายฝ่ายจะสนับสนุนให้นำกลับมาเป็นหลักสูตรสอนนักเรียนอีกครั้ง นับตั้งแต่รัสเซียได้เริ่มทำสงครามกับยูเครน
เซอร์เก เมนไยโล รองพลเรือเอกที่เกษียณแล้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำของภูมิภาคนอร์ทออสซีเชียของรัสเซีย ได้บอกกับเด็ก ๆ ว่า การฝึกอบรมจะมอบทักษะที่ทหารทุกคนจำเป็นต้องมี “ปฏิบัติหน้าที่ทางทหารแบบเป็นทีมได้สำเร็จ” และในอนาคตพวดเขาก็จำเป็นต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เนื่องจากการรับราชการทหารถือเป็นข้อบังคับสำหรับชายหนุ่มในรัสเซีย ท่ามกลางภาวะสงครามกับยูเครน ดังนั้น พวกเขาต้องรู้วิธีใช้อาวุธ การเอาตัวรอด ช่วยชีวิตคน และมีร่างกายที่แข็งแรง
หนึ่งในเด็กนักเรียนที่เข้ารับการฝึก เปิดเผยว่า หลังจากได้เรียนรู้วิธีการยิง เขาพบว่าปืนพกยิงง่ายกว่า ส่วนการเล็งด้วยปืนไรเฟิลจู่โจมค่อยข้างมีความยาก แต่ตัวเขาเองก็เชื่อว่าการฝึกอาวุธปืน จะทำให้ชีวิตของเขาง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเป็นทหารในอนาคต
กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงเมื่อปี 2565 ให้บรรจุการฝึกทหารในหลักสูตรของโรงเรียน เป็นส่วนหนึ่งของวิชา "พื้นฐานความปลอดภัยของชีวิต" แต่นักวิจารณ์มองว่า เป็นส่วนหนึ่งของการยัดเยียดความเป็น "ยุทธาภิวัฒน์" (militarisation)ในสังคมรัสเซีย นับตั้งแต่เริ่มสงคราม