คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เปิดเผยในวันจันทร์ว่า เขายื่นขอหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำฮามาสในฉนวนกาซา ด้วยข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกสังหารในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และอิสราเอลก่อสงครามในฉนวนกาซ
นอกจากนี้เขาต้องการออกหมายจับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และผู้นำฮามาสอีก 2 คน ได้แก่ โมฮัมเหม็ด เดอิฟ หัวหน้ากองพลน้อย อัล-กัสเซม และอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส
ข่านระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อเนทันยาฮู และกัลแลนต์ คือ การทำลายล้าง การใช้ความอดอดอยากเป็นอาวุธในสงคราม รวมถึง การปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการจงใจพุ่งเป้าโจมตีพลเรือน ส่วนอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีอย่างกว้างขวางและเป็นระบบต่อพลเรือนปาเลสไตน์
ส่วนผู้นำฮามาสทั้ง 3 คน จะถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการทำลายล้าง การฆาตกรรม การจับตัวประกัน การข่มขืน และการคุกคามทางเพศ นอกจากนี้อาชญากรรมต่อมนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีอย่างเป็นระบบและกว้างขวางต่อพลเรือนอิสราเอล โดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่น
ต่อจากนี้คณะผู้พิพากษาของศาล ICC จะพิจารณาคำขอออกหมายจับ และการอนุมัติจะมีผลให้ประเทศใดก็ตามที่เป็นภาคีสมาชิกของศาล ICC จะต้องจับกุมคนตามหมายจับและส่งตัวให้ศาล เมื่อไม่นานมานี้ศาล ICC อนุมัติออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สืบเนื่องจากการทำสงครามในยูเครน
แต่อิสราเอลไม่ใช่ภาคีสมาชิกของ ICC อย่างไรก็ตามศาล ICC อ้างว่า มีขอบเขตอำนาจพิจารณาคดีเกี่ยวกับฉนวนกาซา เยรูซาเลมตะวันออก และเขตเวสต์แบงก์ หลังจากผู้นำปาเลสไตน์ตกลงอย่างเป็นทางการที่จะอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดตามหลักการของศาลในปี 2558
และแม้มีการออกหมายจับแล้ว ทั้งหมดก็ยังไม่มีความเสี่ยงทันทีที่จะถูกจับกุม แต่จะทำให้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติมากยิ่งขึ้น และความเสี่ยงถูกจับกุมจะทำให้ผู้นำอิสราเอลจะประสบความยากลำบากในการเดินทางไปต่างประเทศ