"เราจะไม่ไปไหน"
และ
"ความจริงกับรัฐธรรมนูญจะอยู่ข้างเรา และคาดว่าเราจะได้รับชัยชนะอีกครั้ง"
นี่คือคำประกาศของ "โจว โซ่ว จือ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ TikTok ที่คาดหวังว่าจะสามารถเอาชนะความท้าทายของกฎหมาย ที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเพื่อบังคับใช้ ที่จะทำให้ชาวอเมริกัน 170 ล้านคน ถูกห้ามใช้แอปพลิเคชันคลิปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้
ไบเดนขีดเส้นตายให้ TikTok ขายกิจการในวันที่ 19 มกราคม 2568 หรือ 1 วัน ก่อนที่เขาจะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง แต่อาจขยายเส้นตายออกไปอีก 3 เดือน ถ้าเห็นว่าไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่มีความคืบหน้าในเรื่องการขายกิจการ
การแบน TikTok ได้รับแรงขับเคลื่อนจากความกังวลในหมู่นักการเมืองที่ว่า จีนอาจเข้าถึงข้อมูลหรือสอดแนมชาวอเมริกัน โดยกฎหมายได้ผ่านการลงมติอย่างท่วมท้นทั้งในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 เมษายน และในวุฒิสภาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567
การต่อสู้เพื่อการคงอยู่ในสหรัฐฯ ของ TikTok ที่ใช้เวลาถึง 4 ปี ได้กลายสัญลักษณ์ของการทำสงครามอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนได้สั่งให้ลบแอปพลิเคชัน "วอทส์แอป" (WhatsApp) กับ "เธรดส์" (Threads) ของเมตา (Meta) ออกจากแอปสโตร์ของแอปเปิลในประเทศจีน โดยอ้างเรื่องความมั่นคง และนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังเคยพูดถึงกรณี TikTok ว่า แม้สหรัฐฯ จะไม่เคยพบหลักฐานว่า TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ แต่สหรัฐฯ ไม่เคยหยุดที่จะไล่บี้ TikTok