Meta เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram เผชิญสถานการณ์หุ้นร่วงลงมากกว่า 15% หลังมีการเปิดเผยค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์สำหรับปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายพันล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้องทุ่มงบประมาณเพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
ก่อนหน้านี้ทาง Meta ได้อัปเดตผลิตภัณฑ์ซื้อโฆษณาบน Facebook ด้วยเครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มการเติบโตของรายได้ รวมถึงการแนะนำฟีเจอร์ AI อื่นๆ เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น ผู้ช่วยตอบแชท
โดยบริษัทคาดว่าจะมีการใช้จ่ายระหว่าง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3 ถึง 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของบริษัทร่วงลงทันที แม้ทางบริษัทจะมีผลประกอบการที่เกินความคาดหมายก็ตาม
นักวิเคราะห์มองว่าแผนการใช้จ่ายของทาง Meta ค่อนข้างเป็นการเป็นการแสดงออกที่ "อุกอาจ" เนื่องจากอุตสาหกรรมโฆษณาทั่วโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะไม่แน่นอน ท่ามกลางสถานการณ์การเลือกตั้งที่มีกำหนดจัดขึ้นในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกภายในปีนี้ แต่การใช้ AI ของ Meta ช่วยให้ผู้คนใช้เวลาบนแพลตฟอร์มของพวกเขามากขึ้น และทำให้ผู้ลงโฆษณาจึงยินดีที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้นแม้จะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนก็ตาม
นอกจากนี้ Meta ยังอาจได้รับ "ลาภลอย" จากวิกฤตของ TikTok ที่กำลังจะถูกแบนในสหรัฐฯ หรือถูกบังคับให้ขายกิจการแก่บริษัทอเมริกัน ซึ่งหมายถึงการอ่อนกำลังลงของคู่แข่งรายสำคัญด้วย