และแกนตส์ ออกแถลงการณ์หลังการประชุมว่า อิสราเอลจะตอบโต้กลับอิหร่านเมื่อถึงเวลาเหมาะสม และต้องเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และชาติพันธมิตรให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นสำหรับปฏิบัติการใด ๆ ซึ่งสะท้อนว่า เขาไม่สนับสนุนให้อิสราเอลแก้แค้นต่ออิหร่านทันทีด้วยตัวเองในเวลานี้
ขณะที่ชาวอิสราเอลในนครเยรูซาเลมบางคนแสดงความเห็นว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แต่บางคนมองว่า การโจมตีของอิหร่านเท่ากับเปิดทางให้อิสราเอลมีสิทธิตอบโต้กลับ และคาดว่า อาจมีการโจมตีกลับโดยเร็ว และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
นอกจากนี้มีสัญญาณบวกในระยะสั้นว่า อย่างน้อยอิสราเอลจะยังไม่ตอบโต้อิหร่านทันที โดยอิสราเอลเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดการประชุมในบ่ายวันนี้ จึงไม่น่าจะมีการโจมตีอิหร่านก่อนการประชุม
และกัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล บอกกับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ หลังการโจมตีของอิหร่านว่า กองทัพกำลังเตรียมรับมือหากมีการโจมตีครั้งใหม่จากอิหร่าน แต่ไม่ได้พูดว่า เตรียมปฏิบัติการการตอบโต้กลับ
สื่อของสหรัฐฯ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลด้วยว่า ปฏิบัติการใด ๆ ของอิสราเอลต่ออิหร่านจะต้องประสานความร่วมมือกับชาติพันธมิตร ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกกับนายกรัฐนตรีเนทันยาฮู ระหว่างการโทรศัพท์ว่า สหรัฐฯ จะไม่ร่วมสนับสนุนการตอบโต้กลับต่ออิหร่าน
ด้านนักวิคราะห์ มองว่า การล้างแค้นของอิหร่านต่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ถล่มสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายน อาจเป็นเพียงความพยายามรักษาหน้าเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนในประเทศ และกองกำลังกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ในภูมิภาคที่ตัวเองให้การหนุนหลัง
และการที่อิหร่านเลือกโจมตีด้วยโดรนที่เคลื่อนที่ได้ช้า สะท้อนว่า ต้องการแสดงพลังเท่านั้น และแสดงให้เห็นว่า มีศักยภาพการโจมตีที่หลากหลาย ขณะเดียวกันก็เพื่อให้อิสราเอลมีเวลาป้องกัน