กลุ่มกบฏฮูตี แถลงเมื่อวันศุกร์ (26 มกราคม)ว่า กองกำลังทางเรือของฮูตีปฏิบัติการยิงขีปนาวุธโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน “มาร์ลิน ลูอันดา” ของอังกฤษ ในอ่าวเอเดน ทำให้เรือเกิดไฟลุกไหม้ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ และอังกฤษ ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายของฮูตีในเยเมน
เรือลำนี้อยู่ภายใต้การประกอบการของบริษัทโอเชียนิกซ์ เซอร์วิส ในอังกฤษ ที่ดำเนินงานในนามของบริษัท ทราฟิกูรา ซึ่งเป็นบริษัทการค้าข้ามชาติที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ และทราฟิกูรา แจ้งว่า เรือถูกยิงด้วยขีปนาวุธขณะแล่นผ่านทะเลแดง และเรือบรรทุกแนฟทา หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันจากการกลั่นน้ำมันดิบไปยังสิงคโปร์ โดยน้ำมันติดไฟง่ายนี้ซื้อมาจากรัสเซีย
ล่าสุดทราฟิกูรา ยืนยันว่า เรือลุกไหม้หลายชั่วโมงจนกระทั่งดับสนิทแล้วในวันเสาร์ หลังจากลูกเรือชาวอินเดีย 25 คนและชาวศรีลังกา 2 คนช่วยกันดับไฟ และทุกคนปลอดภัย โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ เผยในวันเสาร์ด้วยว่า เรือมาร์ลิน ลูอันดา ส่งสัญญาณขอความช่วยหลือ และรายงานความเสียหายหลังถูกยิงด้วยขีปนาวุธ และเรือยูเอสเอส คาร์นีย์ ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีของสหรัฐฯ และเรือรบของชาติพันธมิตรเข้าให้ความช่วยเหลือ
และในเช้ามืดวันเสาร์ กองกำลังของสหรัฐฯ ได้โจมตีทำลายขีปนาวุธของฮูตีที่ยิงพุ่งเป้าไปยังทะเลแดง และเตรียมยิงใส่เรือรบของสหรัฐฯ และสถานีโทรทัศน์ของฮูตี รายงานด้วยว่า สหรัฐฯ และอังกฤษโจมตีทางอากาศ 2 ครั้งต่อท่าเรือ ราส อิสซา ในจังหวัดโฮไดดา ของเยเมน ซึ่งเป็นท่าส่งออกน้ำมันหลักของประเทศ
ปัจจุบันฮูตีมุ่งโจมตีเรือสินค้าในช่องแคบ บับ เอล-มันเดบ ที่เชื่อมอ่าวเอเดนกับทะเลแดง ซึ่งปกติมีเรือแล่นผ่านช่องแคบนี้วันละเกือบ 50 ลำ เพื่อเดินทางไปและกลับจากคลองสุเอซ
และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด เผยรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ปริมาณเรือที่สัญจรผ่านคลองสุเอซลดลง 42% ในช่วงสองเดือนกว่าที่ผ่านมา นับจากกลุ่มฮูตีเริ่มโจมตีเรือสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลหรือมุ่งหน้าไปอิสราเอลเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลทำสงครามในฉนวนกาซา และเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์
และหลังจากสหรัฐฯ และอังกฤษ เปิดฉากโจมตีเป้าหมายของฮูตีในเยเมนเมื่อวันที่ 12 มกราคม และสหรัฐฯ ยังโจมตีในเยเมนอีกหลายครั้ง เพื่อหวังลดศักยภาพของฮูตีในการโจมตีเรือสินค้า ทำให้ฮูตีประกาศพุ่งเป้าโจมตีเรือสินค้าของสหรัฐฯ และอังกฤษด้วยแล้ว