รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแผนยุทธศาสตร์เทคโนโลยี 'เอไอ' ฉบับที่สอง ซึ่งมีการยกระดับความสำคัญของเทคโนโลยี 'เอไอ' จาก ‘โอกาสใหม่ที่ควรมี’ มาเป็น ‘สิ่งที่จำเป็นต้องมี’ โดย ลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เปิดเผยเป้าหมายในแผนยุทธศาสตร์นี้ว่า สิงคโปร์จะต้องเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้าน 'เอไอ' ในระดับยอดเยี่ยมของโลก ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค และสิงคโปร์จะใช้ประโยชน์จาก 'เอไอ' อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอไอระดับโลก รัฐบาลสิงคโปร์วางแผนที่จะเชิญชวนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอจากต่างประเทศ ให้ย้ายมาทำงานที่สิงคโปร์ และเพิ่มโครงการอบรมด้านเอไอ เพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านนี้ในประเทศเพิ่มขึ้น 3 เท่า เป็นจำนวน 15,000 คน ซึ่งจะรองรับการเติบโตของธุรกิจด้านเอไอในอนาคต
นอกจากนี้ สิงคโปร์ตั้งเป้าที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเอไอให้มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย โดยไม่รุกล้ำสิทธิและความเป็นส่วนตัวของประชาชน รวมทั้งป้องกัน ไม่ให้มีการนำเทคโนโลยีเอไอไปใช้ในทางที่ผิด