ฟิลิปปินส์ประณามจีนกั้นทุ่นลอยน้ำในทะเลจีนใต้

โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ โพสต์ในแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์ในวันอาทิตย์ (24 กันยายน) ว่า ยามฝั่งและสำนักงานประมงและทรัพยากรทางทะเล ประณามอย่างรุนแรงต่อการที่จีนสร้างแนวกั้นด้วยทุ่นลอยน้ำเป็นแนวยาว 300 เมตรในบริเวณบางส่วนของสันทราย  สการ์โบโรห์ ทำให้เรือประมงฟิลิปปินส์ไม่สามารถเข้าไปจับปลาหรือดำรงชีวิตในบริเวณดังกล่าว พร้อมกับเผยแพร่ภาพทุ่นลอยน้ำ และระบุว่า ยามฝั่งตรวจพบทุ่นลอยน้ำระหว่างการลาดตระเวนตามปกติเมื่อวันศุกร์ (22 กันยายน)

นอกจากนี้โฆษกยามฝั่ง ระบุว่า เมื่อเรือประมงฟิลิปปินส์เริ่มเข้าไปหาปลาในบริเวณดังกล่าว เรือยามฝั่งของจีน 4 ลำ ออกคำเตือนทางวิทยุ 15 ครั้ง เพื่อพยายามไล่เรือออกไป

โฆษกยามฝั่ง ย้ำด้วยว่า ยามฝั่งจะยังคงพยายามทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายเหล่านี้ รักษาสิทธิทางทะเล และปกป้องอาณาเขตทางทะเล 

สันทรายสการ์โบโรห์อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) 200  ไมล์ทะเลของฟิลิปปปินส์ ตามที่กำหนดในกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ และได้รับการรับรองจากคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ขณะที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองสันทรายสการ์โบโรห์ และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า หวงเอี้ยน

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (18 กันยายน) ยามฝั่งฟิลิปปินส์เผยแพร่คลิปที่แสดงให้เห็นว่า ปะการังแตกหักและปะการัฟอกขาวในแนวปะการัง 2 จุดในบริเวณทะเลจีนใต้ ภายในเขต EEZ ของฟิลิปปินส์ โดยแนวปะการังโรซูล และแนวปะการังเอสโกดา อยู่ใกล้หมู่เกาะปาลาวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์  ยามฝั่ง กล่าวหาว่า เรือประมงจีนทำประมงอย่างผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายในบริเวณแนวปะการังทั้งสองแห่ง

และในวันพฤหัสบดี (21 กันยายน) สำนักงานอัยการของฟิลิปปินส์ เปิดเผยด้วยว่า กำลังประเมินความเป็นไปได้ในการยื่นฟ้องกล่าวโทษทางการจีนเป็นครั้งที่ 2 ต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (PCA) ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ ด้วยข้อกลาวหาว่าสร้างความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมต่อแนวปะการัง อิโรคัวส์ ในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลี ในทะเลจีนใต้

แต่กระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวขณะแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี โดยปฏิเสธว่า ข้อกล่าวหาของฟิลิปปินส์เป็นเรื่องเท็จและไม่มีมูล พร้อมกับแนะนำให้ทางการฟิลิปปินส์หยุดสร้างข้อมูลเท็จเพื่อเล่นละครการเมืองเกี่ยวกับทะเลจีนใต้