East India Company ที่มีสำนักงานอยู่ในย่านเมย์แฟร์ของกรุงลอนดอน เผยแพร่ภาพเหรียญล้ำค่า "The Crown Coin" ประกอบด้วยทองคำหนัก 1 กิโลกรัม และเหรียญทองคำ 24 กะรัต จำนวน 10 เหรียญ แต่ละเหรียญหนัก 1 ออนซ์ กับเพชรจำนวนมากกว่า 6,000 เม็ด ที่ได้รับการรับรองจาก GIA (สถาบันอัญมณีศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา) รวมมูลค่าทั้งหมด 18.5 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 822 ล้านบาท
East India Company เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยการเดินเรือไปยังประเทศแถบตะวันออก โดยประเทศแรกคืออินเดีย โดยการเข้าไปหาซื้อสินค้าเพื่อนำกลับไปขายที่อังกฤษ หลายประเทศแถบยุโรปและสหรัฐฯ ก่อนที่จะเกิดปัญหาการขายชาในสหรัฐฯ เมื่อศตวรรษที่ 17 เพราะ East India Company ที่ผูกขาดการขายชามาตลอด เจอพิษชาเถื่อนมาตัดราคาทำให้ชาค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลอังกฤษในสมัยนั้น อุ้มบริษัทฯ ด้วยการออกพระราชบัญญัติชาฉบับปี 1773 (The Tea Act of 1773) เพื่อส่งออกชาไปยังสหรัฐฯ โดยตรง ส่งผลให้ชาวอเมริกันต้องจ่ายภาษีชาให้อังกฤษ อีกทั้ง East India Company ยังบีบด้วยการขาชาให้เฉพาะตัวแทนจำหน่ายที่สนับสนุนอังกฤษ ทำให้เรื่องราวจะบานปลายนำไปสู่เหตุการณ์ "The Boston Tea Party" นำไปสู่สงครามระหว่างอังกฤษกับสหรัฐฯ ก่อนที่สงครามจะสิ้นสุลงเมื่อปี ปี 1775 เมื่อสหรัฐฯ ประกาศอิสรภาพจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
สำหรับเหรียญทั้ง 10 ใน "The Crown Coin" ทางบริษัทต้องการให้เชื่อมโยงกับสมเด็จพระราชินีนาถและการครองราชย์ของพระองค์ ที่รวมทั้ง ความกล้าหาญ ความยุติธรรม ความจริง ชัยชนะ การกุศล และความมั่นคง ช่างฝีมือที่รังสรรค์เหรียญ ยังได้รับแรงบันดาลใจทางศิลปะจากโดมที่มีรายละเอียดในอาสนวิหารเซนต์ ปอล (St Paul's cathedral) ด้วย
บริษัทฯ ได้บรรยายประกอบภาพเหรียญในโซเชียล มีเดียด้วยว่า "Introducing The Crown Coin, a once in a lifetime tribute to The Queen" เหรียญ The Crown Coin เป็นเหรียญสดุดีที่มีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเหรียญที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตมา