
"The Blind Side" มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงเสมอในเทศกาลวันแม่ ในฐานะของหนัง "ฮีลใจ" ด้วยภาพอันงดงามที่สะท้อนความรักแท้และโอกาสที่ "แม่ผิวขาว" หยิบยื่นให้แก่ "ลูกบุญธรรมผิวสี" ให้ยืนหยัดในสังคมได้อย่างมั่นคง และยังส่งให้แซนดรา บูลล็อก ได้รับรางวัลออสการ์ (Academy Awards) สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในปี 2010 ด้วย
.
แต่ผ่านมา 14 ปี นับตั้งแต่หนังออกฉายในปี 2009 "ไมเคิล ออห์ร" (Michael Oher) ที่เกษียณตัวเองจาก NFL ได้จัด "ช็อตฟีล" ให้กับคนที่ซาบซึ้งหนังเรื่องนี้ ด้วยการออกมาแฉว่าเขาไม่ได้เป็นลูกบุญธรรมของ "ฌอน (Sean) กับลีห์ แอนน์ ทูอี" (Leigh Anne Touhy) ตามเรื่องราวที่เห็นในหนัง แต่ทั้งคู่ที่รวยอยู่แล้วได้ใช้เขาเป็นเครื่องมือตักตวงความมั่งคั่งให้ตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก
ในคำฟ้องหนา 14 หน้า ที่ยื่นต่อศาลพิจารณาคดีพินัยกรรมและมรดก (probate court) ในเชลบี เคาน์ตี รัฐเทนเนสซี ไมเคิล ออห์ร กล่าวหาฌอนกับลีห์ แอนน์ ที่พาเขาเข้าบ้าน ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนไฮสกูลว่า ไม่เคยรับเลี้ยงเขาเป็นเรื่องเป็นราว และในเวลาไม่ถึง 3 เดือน หลังจากเขามีอายุครบ 18 ปี เมื่อปี 2004 ทั้งคู่กลับล่อลวงให้เขาเซ็นเอกสารยินยอมให้เป็น "ผู้พิทักษ์" ทำให้มีอำนาจตามกฎหมายในการทำข้อตกลงธุรกิจในนามของเขา
คำฟ้องระบุอีกว่า สามีภรรยาทูอีใช้อำนาจในฐานะผู้พิทักษ์ ทำข้อตกลงที่ทำให้พวกเขากับลูกอีก 2 คน ได้ค่าลิขสิทธิ์หลายล้านดอลลาร์ จากหนัง "The Blind Side" ของสตูดิโอ "20th Century FOX" ที่ทำรายได้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ "ออห์รไม่ได้แม้แต่เซ็นต์เดียว" ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีเขา แม้เวลาจะล่วงเลยมาอีกหลายปีจนออห์รอายุ 37 ปี ครอบครัวทูอีก็ยังกล้าเรียกออห์รว่า "ลูกบุญธรรม" ทั้งยังเอาไปใช้ตั้ง "The Making it Happen Foundation" และลีห์ แอนน์ ก็หากินในฐานะนักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ
ความรักลวงโลกของครอบครัวทูอีมีแต่เพิ่มความมั่งคั่งให้พวกเขา จนกระทั่งออห์รได้รู้ความจริงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 ว่า การมีผู้พิทักษ์ที่เขาเซ็นต์ยินยอมเพียงเพราะคิดว่า จะได้เป็นสมาชิกในครอบครัวทูฮีนั้น แท้จริงแล้วเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับครอบครัวนี้เลย ตอนนี้ครอบครัวทูอีปิดปากเงียบ แต่มีข่าวว่าทนายของพวกเขาเตรียมจะฟ้องกลับออห์รแล้ว
ก่อนหน้านี้ฌอนให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ Daily Memphian ว่าเขาไม่เคยได้เงินจากหนัง เพียงแค่ได้รายได้บางส่วนจากหนังสือของไมเคิล ลูอิส (Michael Lewis) ที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นหนัง และรู้สึกหัวใจสลายที่ถูกกล่าวหาว่าหาเงินจากลูก ๆ แต่ก็อ้างว่าเขายังรักออห์รในวัย 37 ปี แบบเดียวกับเคยรักเขาตอนอายุ 16 ปี
ในหนัง The Blind Side ได้แสดงภาพชีวิตของออห์ร เด็กพลัสไซส์ที่ผู้คนเรียกขานว่า "Big Mike" ทั้งที่เจ้าตัวไม่ชอบ เพราะถือเป็นการ "บูลลี่" เขาเกิดที่เมมฟิส รัฐเทนเนสซี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปี 1986 พ่อทิ้งไปตั้งแต่เขาเกิด และแม่ติดยาเสพติดก่อนจะไปเสียชีวิตในเรือนจำช่วงที่เขาเข้าสู่วัยรุ่น
ออห์รมีพี่น้องทั้งหมด 12 คน แต่กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง เพราะแม่ติดยาจนไม่สามารถเลี้ยงดูได้ ออห์ร ต้องเดินเข้าออกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และต้องไปอาศัยหลับนอนบนโซฟาตามบ้านคนรู้จักตั้งแต่อายุ 7 ขวบ การเป็นเด็กเร่รอนไม่มีผู้ปกครองดูแล ทำให้เขาต้องย้ายโรงเรียนถึง 11 ครั้ง ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม และเรียนซ้ำชั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะได้เข้าโรงเรียนคริสเตียนในย่านคนผิวขาวเมื่ออายุ 15 ปี
เส้นเรื่องฮีลใจในหนัง คือการที่เขาได้รู้จักกับลีห์ แอนน์ ทูอี และเป็นนักอเมริกันฟุตบอลทีม Baltimore Ravens, Tennessee Titans และ Carolina Panthers แต่ในชีวิตจริงเส้นทางชีวิตของเขากำลังพลิกผันจากกีฬาคนชนคน ไปชนกับพ่อแม่ลวงโลกในศาลแทน