ชายคนหนึ่งวัย 20 ปีเศษ ก่อเหตุแทงครูรายหนึ่งหลายแผล ที่รวมถึงใบหน้าและหน้าอก ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเมืองแทชอน ห่างจากกรุงโซล 139 กม. ในเกาหลีใต้เมื่อเวลา 10.03 น. ของวันศุกร์ (4 สิงหาคม 2566) ตามเวลาท้องถิ่น และตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ห่างจากโรงเรียนราว 7-8 กิโลเมตรในเวลา 12.30 น. ส่วนครู วัย 49 ปี ได้รับการผ่าตัดด่วน หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบเขาในสภาพหมดสติและนำตัวส่งโรงพยาบาล
ตำรวจระบุว่า ชายผู้ก่อเหตุเข้าทางประตูหน้าของโรงเรียนโดยแนะนำตัวว่าเป็นศิษย์เก่า และต้องการเข้าพบครูคนที่ตกเป็นเหยื่อ และรอจนเขามาถึง จึงแทงกระหน่ำก่อนหลบหนี ส่วนครูวิ่งไปที่ตึกสำนักงานและโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบหาสาเหตุจูงใจของอาชญากรรมครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องสงสัยอาจคุ้นเคยกับเหยื่อ หลังจากผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ได้ยินเสียงครู บอกว่า “เป็นความผิดของฉัน”
เหตุสะเทือนขวัญครั้งใหม่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากเพิ่งมีชายคนหนึ่งขับรถไล่ชนคนบนทางเท้า และลงไปไล่แทงคนที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองซองนัม ใกล้กับกรุงโซล ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 14 คนเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี โดยมีผู้ถูกแทง 9 คน และถูกรถชน 5 คน และก่อนหน้านั้นเพียงสองสัปดาห์มีเหตุไล่แทงคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และผู้บาดเจ็บ 3 คน ที่สถานีรถไฟใต้ดินซิลลิมในกรุงโซล
โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี เผยแพร่แถลงการณ์ในวันศุกร์ ระบุว่า ประธานาธิบดียุน ซุก ยอล เรียกเหตุการณ์ไล่แทงคนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “การก่อการร้ายต่อพลเมืองผู้บริสุทธิ์”
ขณะที่ชุดสอบสวน เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นชายวัย 22 ปี มีนามสกุลว่า ชอย ลาออกจากโรงเรียนเนื่องจากมีอาการของโรคกลัวสังคม และได้รับการวินิจฉัยในเวลาต่อมาว่า มีบุคลิกภาพผิดปกติชนิดแยกตัว และมีอาการของโรคหลงผิดด้วย
และตำรวจเปิดเผยในวันศุกร์ด้วยว่า เพียงหนึ่งชั่วโมงหลังเหตุระทึกขวัญในเมืองซองนัม มีโพสต์ขู่ก่ออาชญากรรมเลียนแบบ 2 โพสต์ในโลกออนไลน์ ซึ่งโพสต์หนึ่งขู่ว่า “จะฆ่าคนจำนวนมากเท่าที่เป็นไปได้” ทำให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบทันทีเพื่อตามหาตัวคนโพสต์ และเพิ่มการจับตาทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน 2 แห่ง ที่ถูกระบุในคำขู่ก่อเหตุ และสถานีรถไฟใต้ดินอีก 2 แห่งใกล้เคียงเพื่อเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน
ล่าสุด ยุน ฮี กึน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษเพื่อปราบรามอาชญากรรมโหดร้ายจนกว่าประชาชนจะคลายความกังวล โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน และสุ่มตรวจคนบุคคลที่พกพาอาวุธหรือมีพฤติกรรมน่าสงสัยตามถนนสายต่าง ๆ และสั่งการให้ตำรวจใช้กำลัง รวมถึงอาวุธปืนหรือปืนช็อตไฟฟ้า ในกรณีที่มีการไล่แทง รวมทั้งเพิ่มกำลังตำรวจ ทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจปราบจลาจล และชุดสืบสวน ตรวจตราสถานที่สาธารณะเพื่อปราบปรามอาชญกรรม
นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจ ประกาศด้วยว่า จะดำเนินการลงโทษสถานหนักตามที่กฎหมายอนุญาต ต่อผู้ที่โพสต์ข่มขู่ก่ออาชญากรรมเลียนแบบ หรือ เผยแพร่ข่าวปลอมในออนไลน์