ผู้สนับสนุนของอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปิดกั้นถนน จุดไฟเผาทำลายทรัพย์สิน รวมทั้งปะทะกับตำรวจในหลายเมืองทั่วปากีสถานในวันพุธ หลังจากพรรคเทห์รีค-อี-อินซาฟ (PTI) ของข่าน เรียกร้องเมื่อวันอังคารให้ผู้สนับสนุนออกมาประท้วงทั่วประเทศ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากข่านถูกตำรวจจับกุมตัวที่ศาลสูงในกรุงอิสลามาบัด
การประท้วงและการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจตั้งแต่วันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และในจังหวัดปัญจาบมีผู้ถูกจับกุมเกือบ 1,000 คน รถตำรวจ 25 คัน และอาคารราชการ 14 หลังถูกจุดไฟเผา
ทางการท้องถิ่นใน 3 จังหวัดจากทั้งหมด 4 จังหวัดต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ห้ามการชุมนุม และกองทัพส่งทหารเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในกรุงอิสลามาบัด และจังหวัดปัญจาบที่มีประชากรมากที่สุด ขณะเดียวกันจังหวัดไคเบอร์ปัคตูนควา ร้องขอให้กองทัพส่งทหารเข้ารักษาความสงบด้วย นอกจากนี้ทางการยังตัดเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อย และสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ
ขณะที่นายข่าน วัย 72 ปี ถูกนำตัวขึ้นศาลในกรุงอิสลามาบัดในวันพุธ (10 พ.ค.) และศาลรับคำฟ้องข้อหาทุจริตจากการขายของขวัญที่ได้รับสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2561-2565 แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา
แต่เขาถูกจับกุมตัวเมื่อวันอังคารด้วยข้อหาทุจริตจากการครอบครองที่ดินอย่างผิดกฎหมายและการก่อสร้างมหาวิทยาลัยอัล-กาดีร์ในที่ดินดังกล่าว และผู้พิพากษาสั่งฝากขังในคดีนี้นาน 8 วัน
พรรค PTI อ้างว่า นายข่านไม่สามารถเข้าถึงการปรึกษาทางกฎหมาย และพรรคจะยื่นร้องเรียนประเด็นการจับกุมอย่างไม่ถูกกฎหมายต่อศาล ขณะที่มีเสียงวิจารณ์ว่า การจับกุมนายข่านดังกล่าวมีลักษณะเป็นการลักพาตัว
ข่านถูกลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปีที่แล้ว และหลังจากนั้นเขาก็เดินสายจัดการปราศรัยวิจารณ์รัฐบาล และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ แต่เขาก็ถูกดำเนินคดีเรื่อยมารวมหลายสิบข้อหา และความพยายามจับกุมเขาหลายครั้งที่ผ่านมา จุดชนวนให้เกิดการประท้วงรุนแรงตามมา
ความขัดแย้งทางการเมืองกลับยิ่งทำให้คะแนนนิยมของนายข่านเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้พรรค PTI ชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดปัญจาบเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์สำหรับการเลือกตั้งระดับประเทศ นักวิเคราะห์กังวลว่า การเมืองแบ่งขั้ว บวกกับวิกฤตเศรษฐกิจ อาจทำให้ปากีสถาน ตกอยู่ในวิกฤตอย่างถาวร